จับดำเนินคดีแล้ว หญิงเซลฟี เผาไร่อ้อย บอกไม่รู้ผิดกฎหาย เห็นคนอื่นเผาได้ ขอโทษสังคม ยอมรับผิดทุกอย่าง จะไม่ทำอีก เจ้าหน้าที่เผยโทษปรับ

วันที่ 25 ม.ค. 2568 นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู สั่งการให้นายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง นายประเสริฐ นิมมานสมัย หัวหน้าสำนักงาน ปภ.หนองบัวลำภู ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สาธารณสุข และท้องถิ่น เข้าตรวจสอบกรณีมีผู้โพสต์การเผาใบอ้อยและถูกแชร์ในสื่อออนไลน์เป็นวงกว้าง

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้โพสต์คือนางพุทธ อายุ 59 ปี ชาวบ้านกุดแข้ ม.10 ต.ทรายทอง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู เป็นเจ้าของไร่อ้อยดังกล่าว ในพื้นที่ 2.8 ไร่ อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นการจุดไฟเผาใบอ้อยที่เหลือหลังตัดอ้อยแล้ว แต่ไม่ได้เผาต้นอ้อย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.30 น.

โดยนางพุทธได้เซลฟี่ภาพของตนกับกองไฟขณะลุกโชน แต่หลังเกิดเหตุ เกิดลมหนุนลุกลามหนักไม่สามารถดับได้เอง จึงขับรถเข้าไปตามญาติพี่น้องเพื่อนบ้านในหมู่บ้านมาช่วยดับไฟ หลังไฟดับจึงนำภาพที่เซลฟี่ไว้มาโพสต์ขอบคุณชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟ โดยไม่ทราบว่ามีความผิด

คณะเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ จึงดำเนินการแจ้งเจ้าของพื้นที่ผู้ที่เป็นผู้จุดไฟว่า เหตุการณ์เผาไร่อ้อยหรือพื้นที่ตอซังหลังเก็บเกี่ยว เป็นความผิดตามกฎหมายและฝ่าฝืนข้อสั่งการการห้ามเผาในพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ต่างๆ ใน จ.หนองบัวลำภู มีโทษต้องถูกดำเนินคดี และจำเป็นดำเนินการแจ้งความ

โดยมอบหมายให้ อบต.ทรายทอง ผู้เป็นเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเข้าแจ้งความที่ สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ยังได้พบเหตุการณ์เผาตอซังขึ้นอีกจำนวน 4 แปลง เป็นลักษณะความผิดซึ่งหน้า รวมที่แจ้งความวันนี้เป็น 5 แปลง ซึ่งลักษณะของความผิดที่กระทำ เป็นการก่อให้เกิดมลพิษทางด้านสาธารณสุข อัตราโทษปรับไม่เกิน 14,000 บาท

ด้านนางพุทธ กล่าวว่า ตนไม่รู้ ถ้ารู้ก็คงไม่ทำ ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนและสังคมด้วย ที่ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อขอบคุณผู้มาช่วยดับไฟ แต่ด้วยความไม่รู้กฎหมาย เมื่อผิดก็ยอมรับผิดทุกอย่าง ตนเพิ่งมาทำไร่อ้อยปีแรก ไม่เคยทำมาก่อน แต่ก่อนให้คนอื่นทำ

นางพุทธ กล่าวต่อว่า เห็นคนอื่นเผาได้ก็เลยเผา ต่อไปจะไม่ทำอย่างนี้อีก ฝากเตือนเพื่อนๆ เกษตรกร อย่าทำอย่างที่ตนทำ เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย หากจะทำการเกษตรก็ขอให้ใช้วิธีการอื่นแทน

ด้านนายศักรินทร์ โพธินาม ปลัดอำเภอศรีบุญเรือง หัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคงอำเภอ ได้แจ้งกำชับกับทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และท้องถิ่น ให้มีการประกาศกำชับในเรื่องของการเผาอ้อยหรือป่า เนื่องจากส่งผลกระทบต่อมลพิษทางอากาศทำให้เกิดค่าฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาของประเทศอยู่ในขณะนี้

โดยให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ต่อเนื่อง เพื่อลดการเผา หากพบว่ามีการเผาเกิดขึ้น ขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย หากท้องถิ่นไม่แจ้งความดำเนินคดีก็ถือว่าละเลย ทางอำเภอสามารถแจ้งความดำเนินคดีแทนได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน