สาวอาละวาด ทำร้ายพ่อแม่กลางธนาคาร หลังไม่ยอมให้เบิกเงินฝากของลูกชายตัวเอง ลั่นอุตส่าห์ทำงานเก็บเงินให้ ทำไมจะใช้ไม่ได้ ตำรวจพาไปคุยที่โรงพัก สุดท้ายจบที่โรงพยาบาล
วันที่ 10 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองชัยนาท รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายบนธนาคารออมสิน สาขาเมืองชัยนาท จึงรุดตรวจสอบพบ นางกาญจนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี นั่งเถียงนั่งบ่นเสียงดังอยู่กับ นายแก้ว และ นางสมนึก พ่อและแม่แท้ๆ หลัง นางกาญจนา ใช้ขวดขว้างใส่หน้าและใช้กระเป๋าฟาดเข้าที่หัว บริเวณหน้าประตูธนาคาร ทำเอาวุ่นวายกันทั้งธนาคาร
ส่วนสาเหตุมาจากไม่พอใจที่พ่อและแม่ไม่ให้เบิกเงิน 2 บัญชี บัญชีละ 15,000 บาท รวม 30,000 กว่าบาท แต่บัญชีเป็นชื่อของ นายไกด์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ลูกชายของ นางกาญจนา ที่ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ปวช.
นางกาญจนา กล่าวว่า ตนจะนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว เพราะเงินส่วนนี้ตนทำงานเก็บไว้ให้ลูก ตอนนี้จะเอาออกมาใช้ แต่พ่อกับแม่ตนบอกให้เก็บไว้ให้หลานเป็นทุนการศึกษา ก่อนโต้เถียงกันไปมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวไปตกลงกันที่ สภ.เมืองชัยนาท
พอมาถึงโรงพักพนักงานสอบสวนเรียกตัว นายแก้ว ไปคุยเพื่อเจรจา แต่ นางกาญจนา กลับไม่หยุดพูด พูดจาวกไปวนมา และเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ตำรวจเตือนอยู่หลายครั้งก็ไม่ยอมหยุด จนต้องเชิญตัวออกไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่ด้านนอก จนสุดท้ายพ่อกับแม่ต้องยอมแบ่งเงินให้ครึ่งหนึ่ง เป็นเงิน 15,480 บาท ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้ให้หลานชาย คุยไปคุยมาจะขอเพิ่มเป็น 25,000 บาท แต่คราวนี้พ่อกับแม่ไม่ยอม นางกาญจนา เห็นว่าได้เงินครึ่งหนึ่งแล้วถึงยอมสงบ
ทางพ่อและแม่จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชก่อน ออกมาอาการปกติแล้วถึงจะให้เงินเอาไปใช้ตามคำร้องขอ ตำรวจจึงเอาตัวไปรักษาที่ รพ.ชัยนาทนเรนทร เพื่อส่งตัวต่อ รพ.จิตเวชนครสวรรค์ ต่อไป
นายแก้ว และ นางสมนึก เผยว่า ลูกสาวเป็นผู้ป่วยจิตเวช ลาออกจากงานมาตั้งแต่ช่วงโควิด มีลูก 1 คน เมื่อ 2 ปีก่อนเริ่มมีอาการป่วยทางจิต สามีก็หย่าร้าง ทางนั้นมาส่งที่บ้านพ่อแม่ ขึ้นศาลได้เงินมา 80,000 บาท ก็ใช้จนหมด พาไปรักษาที่ รพ.จิตเวชนครสวรรค์ แล้วก็ไม่หาย เพราะไม่ยอมกินยาต่อเนื่อง ได้ยามาก็เอาไปเผาทั้งหมด กลับมามีอาการอยู่บ่อยๆ
ทั้งยังอาละวาดทำร้ายข้าวของ ทำร้ายพ่อแม่อยู่บ่อยครั้ง จนชาวบ้านเอือมระอา และแยกตัวไปเช่าบ้านอยู่ พอรู้จากชาวบ้านว่าน่าจะไปติดผู้ชาย จึงไปหลอกเอาบัตรประชาชนจากหลานชายมา เพื่อที่จะมาถอนเงิน คาดว่าน่าจะเอาไปเลี้ยงผู้ชาย โชคดีที่มาทันเวลาก่อนที่ลูกสาวจะถอนเงินไปถลุงจนหมด ยอมรับว่าท้อแท้ และหดหู่ เสียใจที่ลูกสาวเป็นแบบนี้ ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรม หวังว่าการไปรักษาตัวครั้งนี้ ออกมาแล้วจะดีขึ้น