2 ตูบพยายามสุดชีวิต หวังเข้าช่วยเหลือเจ้านาย แต่ไม่เป็นผล ปมคาดว่าน่าจะน้อยใจแฟนสาวสอง หลังหนีไปทำงานที่ญี่ปุ่น
เมื่อเวลา 15:00 น.วันที่ 10 ก.พ.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุชายผูกคอเสียชีวิตในบ้านพัก โดยเหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้น ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในบ้านพบร่างของนายชัยพร อายุ 34 ปี มีอาชีพเป็นช่างสัก เสียชีวิตโดยใช้เชือกผ้าผูกคอตัวเอง กับมือหมุนกระจกบานเกร็ดในท่านั่งเสียชีวิต ไม่พบร่องรอยการรื้อค้น หรือต่อสู้ใดๆในบ้านพัก ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ พบว่าในช่วงเวลา 13.47 น. ของวันที่ 9 ก.พ.นายชัยพรผู้เสียชีวิตได้ใช้เชือกผูกคอตัวเองจริง
โดยมีสุนัข 2 ตัว ที่นายชัยพรเลี้ยงไว้ ที่เห็นเหตุการณ์ พยายามเข้าตะกรุยร่าง พร้อมกับส่งเสียง เห่าเรียกนายชัยพรผู้เป็นเจ้าของที่กำลังแน่นิ่งไป ก่อนที่สุนัขอีกตัวจะวิ่งไปยืนเห่าส่งเสียงเรียกคนข้างนอกให้มาช่วย
จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่เพียงลำพัง และเลี้ยงสุนัข 2 ตัวและแมว 3 ตัวไว้เป็นเพื่อนภายในบ้าน ต่อมาทางญาติผู้เสียชีวิตได้เปิดดูข้อความในแท็บเล็ตที่ผู้เสียชีวิตได้เขียนบันทึกไว้ พบว่ามีการพิมพ์ข้อความน้อยใจตัดพ้อกับแฟนที่ไปทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นว่า หลังเดินทางไปทำงานแล้วยังไม่เห็นตัวเงินอย่างที่พูดไว้ ทำให้ตัวผู้เสียชีวิตเองใช้ชีวิตลำบากอดมื้อกินมื้อ จนทำให้ผู้เสียชีวิตเชื่อว่าแฟนสาวสองกุเรื่องไปทำงานที่ญี่ปุ่นเพื่อหาเงิน
จากการสอบถามพี่ชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า เมื่อวานนี้ 9 ก.พ.ช่วงบ่ายตนเองพยายามโทรหาน้องชายเพื่อให้มาเอาหมูที่บ้านไปทำกับข้าวกิน แต่ปรากฏว่าน้องชายไม่รับสาย ตอนแรกตนยังคิดว่าน้องชายน่าจะนอนดึกจึงยังไม่ตื่น พอวันนี้ตนจึงโทรไปหาแฟนเขาที่อยู่ต่างประเทศให้เปิดกล้องดูสุดท้ายจึงเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกช่วงเวลาที่น้องชายเสียชีวิต
ทางด้านแฟนของนายชัยพร (สาวประเภทสอง) กล่าวทางโทรศัพท์ว่า ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับนายชัยพรแฟนหนุ่มแล้ว เกิดมีปากเสียงกันเรื่องส่วนตัว ประกอบกับนายชัยพรเป็นคนคิดมาก ขี้น้อยใจ จนกระทั่งวันนี้ทางญาติบอกว่าติดต่อนายชัยพรไม่ได้ตน จึงได้เปิดกล้องวงจรปิดในบ้านดู ถึงพบว่านายชัยพรเสียชีวิตตั้งแต่วันคืนที่ผ่านมา
หลังแพทย์ทำการชันสูตรศพ ประกอบกับมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด บันทึกช่วงนาทีเกิดเหตุเอาไว้เป็นหลักฐาน ทางญาติของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจสาเหตุการตาย ทางแพทย์จึงได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางญาตินำศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป
