จับสาวพม่า ขายบุหรี่ไฟฟ้า หน้าโรงเรียนดัง รับจ้างจากลูกนักการเมืองท้องถิ่นชุมพร พบปีก่อนเคยถูกจับยังกลับมาเปิดที่เดิมซ้ำอีก
วันที่ 13 ก.พ. 2568 ตำรวจไซเบอร์ บช.สอท.5 ร่วมกับสืบสวนภูธรจังหวัดชุมพร ตำรวจสืบสวน สภ.สวี, กอ.รมน.จังหวัดชุมพร, ป้องกันจังหวัดชุมพร, จัดหางานจังหวัดชุมพร, ปกครองจังหวัดชุมพร และผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร
จับกุม น.ส.ยาน มิน ถ้วย หรือแตน สัญชาติเมียนมา อายุ 20 ปี ต้องหาว่ากระทำความผิด ขายหรือให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า
ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิด ทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ ตาม พ.ร.ก.การบริการจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560
พร้อมของกลาง ประกอบด้วย 1.หัวพอร์ตบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อต่างๆจำนวน 386 ชิ้น 2.หัวพอร์ตบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 103 ชิ้น 3.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อต่างๆจำนวน 58 ชิ้น 4.คอยร์ใช้สำหรับกรอง จำนวน 56 อัน 5.เครื่องดูด 1 อัน 5.โทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟน 13 จำนวน 1 เครื่อง
สืบเนื่องจากตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “กุ๊กก่า โอยโอ้ย” ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จึงสืบสวนหาพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดหลังสวน และสืบทราบว่า มีผู้หญิงสัญชาติเมียนมา รูปร่างอ้วนผิวดำแดง ขี่รถจักรยานยนต์เป็นผู้นำบุหรี่ไฟฟ้าไปส่งให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำหมายศาลจังหวัดหลังสวนที่ 5/2568 ลงวันที่ 13 ก.พ.68 เพื่อตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 5 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร พบ น.ส.ยาน มิน ถ้วย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานตรงกับที่สืบสวนมา จึงขอตรวจค้น
น.ส.ยาน มิน ถ้วย ยอมรับว่าเป็นผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และนำเจ้าหน้าที่ชี้จุดซุกซ่อนตามที่ต่างๆ ในบริเวณร้านขายน้ำข้างบ้าน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง
น.ส.ยาน มิน ถ้วย ให้การว่า ตนเกิดในประเทศไทยและเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า จึงสามารถพูดเขียน อ่าน และเข้าใจภาษาไทยเป็นอย่างดี โดยนายภูริพัฒน์เป็นผู้ว่าจ้างให้ตนนำบุหรี่ไฟฟ้าไปจำหน่าย โดยได้รับค่าจ้างวันละ 600 บาท ทำมานาน 3-4 เดือนแล้ว
น.ส.ยาน มิน ถ้วย ให้การต่อว่า นายภูริพัฒน์บอกตนว่าหากใครต้องการซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ให้ตนเข้าไปเอาในบ้านได้เลย ซึ่งเป็นบ้านพักของญาติที่นายภูริพัฒน์พักอาศัยอยู่ด้วย
จากการตรวจสอบประวัตินายภูริพัฒน์ พบว่ามีพ่อเป็นนักการเมืองท้องถิ่นและแม่มีอาชีพรับข้าราชการครูอยู่ต่างอำเภอ นายภูริพัฒน์เคยถูกจับข้อหาขายหรือให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ที่ร้านบริเวณบ้านพักหลังดังกล่าวซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงเรียนมัธยม เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2567
เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับนายภูริพัฒน์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝากถึงเด็กและเยาวชนหรือประชาชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีโทษทั้งทางร่างกายเสี่ยงต่อเกิดโรคต่างๆ แล้วยังผิดกฎหมายทั้งผู้สูบและผู้ครอบครองเพื่อจำหน่ายด้วย มีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือพนักงานฝ่ายปกครองในท้องที่ เพื่อดำเนินคดีได้