สมศักดิ์ แจงต่างด้าวแย่งสิทธิรักษา โต้หมอ รพ.แม่สอด ดูแลคนไข้ 1 ต่อ 8,000 ไม่จริง เผยยอดต่างด้าวในไทยขึ้นทะเบียนถูกต้อง 5 ล้านกว่าคน นอกระบบ 1 ล้านคน

วันที่ 21 มี.ค. 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หารือถึงการแก้ปัญหาต่างด้าวในการใช้บริการระบบสาธารณสุขไทย กับ นพ.พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์สภากาชาด นายบุญรักษ์ สรัคคานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและจิดิทัล สภากาชาดไทย นายอดิพงษ์ ภัทรวิกรม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการ สธ. นพ.ดิเรก สุดแดน ผู้ช่วยปลัด สธ. นพ.เอนก มุ่งอ้อมกลาง รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สภากาชาดไทย

นายสมศักดิ์ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า วันนี้ได้ขอความชัดเจนในกรณีที่มีปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าว ทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายว่า จะบริหารจัดการเรื่องสุขภาพ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับคนไทยอย่างไร มีระบบการตรวจสอบอย่างไร เพื่อสร้างความชัดเจนให้สังคมไทย ไม่เคลือบแคลงสงสัย

“เพราะจะมีคำกล่าวหรือต่อว่าต่อขานเชิงประชดประชันว่า คนไทยถูกแย่งสิทธิในการรักษาพยาบาล ซึ่งได้ดูในหลักการของสภากาชาดไทยแล้ว ดีมากในเรื่องของไบโอแมทริกซ์ ออเทนติกเคชัน ซิสเต็มส์ หรือระบบจดจำใบหน้าและการจำลายม่านตา เพื่อสร้างมาตรฐานการเก็บข้อมูลอย่างแม่นยำ เมื่อถ่ายใบหน้าและม่านตา จะมีการบันทึกในระบบดิจิทัล เพื่อให้รู้ว่าคนนี้เคยมาใช้บริการของโรงพยาบาลแล้ว จะสามารถบรรเทาความยุ่งยากไปได้”

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตัวเลขของต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย 5 ล้านกว่าคน ใน 5 ล้านกว่าคน เป็นตัวเลขที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายไทย ส่วนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนก็มีจำนวนประมาณ 1 ล้านคน ยกตัวอย่าง เช่น อ.แม่สอด จ.ตาก เราได้ทำระบบถ่ายใบหน้าและลายม่านตาไปแล้ว 7,116 คน คือคนที่อยากให้เรารักษา เป็นเหมือนการลงทะเบียน ถ้าไม่สแกนม่านตา เราจะไม่รักษาให้

รมว.สธ. กล่าวอีกว่า เมื่อดูจากสถิติของ อ.แม่สอด มีประชาชนคนไทย 110,000 คน รวมยอดต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ใน อ.แม่สอด ด้วยประมาณ 117,616 คน โดยสรุป แพทย์ที่ อ.แม่สอด ต้องดูแลคนไทยและต่างด้าวประมาณ 1 ต่อ 1,400 คน โดยตัวเลขเฉลี่ยของไทยก็ประมาณ 1 ต่อ 1,000 คน ไม่ใช่ 1 ต่อ 8,000 คน อย่างที่ออกข่าวกันมา

“เมื่อมาเช็กดูแล้วก็มีเพียงเท่านี้ คนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ที่ไม่ได้ถ่ายภาพม่านตาไว้ เราก็ไม่ดูแลรักษาให้อยู่แล้ว ก็ต้องดำเนินการแบบนี้ไปทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ ถ้าขึ้นทะเบียนโดยระบบถ่ายม่านตา เพื่อดูแลระบบสาธารณสุข โรคระบาด เชื่อว่าจะแบ่งเบาความยุ่งยากได้มาก” นายสมศักดิ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน