เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 22 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวและชาวเชียงใหม่ ที่นับถือศาสนาพุทธว่า ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ มีการก่อสร้างอาคารขึ้นมาใหม่ติดกำแพงวัด โดยสร้างสูงจนบดบัง สถานที่ศักดิ์สิทธิภายในวัดที่เก่าแก่จนไม่สามารถมองเห็นจากด้านนอก โดยสร้างเป็นศาลาใหม่บดบังของเก่าจนสิ้น บังสถานที่ศักดิ์สิทธิ เสาอินทขิล ,วิหารหลวง

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดเจดีย์หลวงฯ และพบกับพระครูโสภณกวีวัฒน์ รองเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ได้เปิดเผยว่า เรื่องการก่อสร้างศาลาบริเวณกำแพงวัดเจดีย์หลวง ที่กำลังดำเนินการนั้นเป็นการสร้างศาลาบาตร เพื่อรองรับงานบูชาอินทขนิล ซึ่งมีประจำทุกปี เดือนพฤษภาคม การก่อสร้างดังกล่าวเป็นเรื่องของงทางเทศบาลกับทางคณะกรรมการวัดเป็นผู้ตัดสินใจ และมีการประชุมมีมติให้สร้าง โดยไม่คำนึงว่าจะบดบังสถานที่ศักดิ์สิทธิของวัดหรือไม่ มีการทักท้วงไปแล้วแต่ก็เอาเสียงข้างมาก ทางอาตมา ไม่เห็นด้วยแต่ก็ต้องปล่อยตามมติ ทางเทศบาลและคณะกรรมการเมื่อมีการตัดสินใจคิดสร้างโน้นสร้างนี่ภายในวัด สุดท้ายทางวัดก็ต้องรับผิดชอบในการดูแล วัดเจดีย์หลวงฯ เป็นวัดเก่าแก่ ไม่ควรสร้างสิ่งใหม่มาบดบังของเก่าเลย

เมื่อก่อนก็ไม่มีการสร้างอะไร เพราะไม่มีรายได้ ต่อมาเมื่อมีนักท่องเที่ยวเยอะ มีรายได้หลายทางทั้งเก็บเงินค่าเข้าวัดจากนักท่องเที่ยว เงินบริจาค ทำให้วัดมีเงินเยอะ ก็เริ่มคิดสร้างโน้นสร้างนี่กัน สร้างอาคารใหญ่โตด้านหลังมูลค่า 30 ล้าน ก็ถูกผู้รับเหมาทิ้งงานต้องหาเจ้าใหม่ เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ แล้วนี่มาสร้างศาลาบาตร บดบังสถานที่ศักดิ์สิทธิอีก ตอนแรกสร้างบดบัง ถึงยักษ์กุมภัณฑ์ อาตมา ได้แจ้งให้ผู้รับเหมาให้ขยับห้ามบังกุมภัณฑ์ แต่ก็บังอาคารเสาอินทขิล และวิหารหลวงอยู่ดี

ทางวัดเคยสั่งรื้อพระพุทธรูปที่สร้างไว้หน้าวิหารหลวงมาแล้ว เนื่องจากครั้งนั้นมีการสร้างและนำพระพุทธรูปมาตั้งหน้าวิหาร ให้คนได้บูชา แต่ได้รับการร้องเรียนว่า พระพุทธรูปในวิหารหลวง นั้นยื่นมือห้ามญาติ ทำให้คนที่เดินนอกวัดไม่สามารถเห็นวิหารและพระพุทธรูปในวิหารได้ สุดท้ายก็ได้รื้อพระพุทธรูปและสิ่งก่อสร้างหน้าวิหารออก และล่าสุดก็มีการสร้างศาลาบาตร บดบัง เสาอินทขิล และวิหารหลวงอีก ก็แล้วแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมาตรวจสอบดำเนินการ ซึ่งเป็นเรื่อของมติคณะกรรมการวัดกับทางเทศบาล ทั้งที่มีการทวงติงไปแล้วแต่ก็ยังมีการให้ก่อสร้างอยู่ การก่อสร้างศาลาบาตร ครั้งนี้สร้างกึ่งถาวร หากมีการท้วงติงหรือหน่วยงานภาครัฐมาตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง ก็สามารถรื้อออกไปได้ ก็ต้องรอดูกันต่อไป ว่าจะมีการร้องเรียนหรือมีการตรวจสอบหรือไม่อย่างไร

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนักท่องเที่ยวว่า เมื่อก่อนมายืนถ่ายภาพจากนอกถนนเข้าไปในวัดเห็นอาคารเสาอินทขิล,ยักษ์กุมภัณฑ์ และวิหารหลวง สวยงามมาก แต่มาวัดนี้มีการก่อสร้างศาลาบดบังสิ่งศักดิ์สิทธิภายในวัดหมดเลย เสียดายอย่างมาก สร้างของใหม่มาบดบังของเก่า ภายในวัด คิดได้อย่างไง เพียงแค่จะให้เป็นที่วางดอกไม้ธูปเทียนพิธีบูชาเสาอินทขิล ซึ่งปีหนึ่งจะมีงานแค่ 7 วัน แต่ต้องบดบังสิ่งศักดิ์สิทธิภายในวัดไปตลอดกาล น่าเสียดาย

ล่าสุดได้มีสื่อมวลชน รวมทั้งนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าไปภนวัดและจะทำการถ่ายทำเรื่องการท่องเที่ยวภายในวัด ปรากฏว่าถูก รปภ.ของทางวัดสั่งห้ามบันทึกภาพภายในวัดอย่างเด็ดขาด หากต้องการบันทึกภาพ จะเป็นสื่อหรือนักท่องเที่ยว เฉพาะภาพเคลื่อนไหว ต้องไปขออนุญาติสำนักงานของวัดเป็นผุ้อนุญาติโดยให้ทำหนังสือขอไป และจะอนุมัติอีกครั้งภายหลังจากยื่นอีก 2 วัน ถึงจะถ่ายทำได้ ไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น เป็นกฏเกณฑ์ ที่ทางวัดและคณะสงฆ์ของวัดรวมกันคิดขึ้นกฏนี้ออกมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอย่างไรก็ตามทางนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยววัดแห่งนี้และเคยบันทึกภาพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โบราณที่เก่าแก่ ต้องออกมาบันทึกภาพนอกวัดหน้าวัด ที่มีการก่อสร้างศาลาบดบังไว้ สร้างความสลดใจให้กับชาวพุทธคนเชียงใหม่และผู้ที่พบเห็นอย่างมาก โดยประชาชนชาวพุทธอยากให้ทางสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และเตรียมรวมตัวกันร้องผู้ว่าเชียงใหม่ เพื่อให้รื้อศาลาดังกล่าวออก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน