เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เว็บไซต์วอชิงตันโพสต์รายงานวิเคราะห์กระแสการกระชับอำนาจของนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการไล่จับคู่แข่งทางการเมืองฝ่ายตรงข้าม คนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หรือกระทั่งสั่งปิดหนังสือพิมพ์ และบีบหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ของประเทศให้ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก พร้อมมีการป้ายสีว่าฝ่ายตรงข้ามสนับสนุนนักข่าวให้นำเสนอข่าวปด และเป็นสายสืบให้กับรัฐบาลสหรัฐ

นายฮุน เซน เป็นนากยกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งมาอย่างยาวนาน ถึง 33 ปี และกำลังทำทุกวิถีทางที่จะรับประกันตำแหน่งอำนาจของตน ก่อนวันเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ และหนึ่งในกรรมวิธีที่ฮุน เซนนำมาหาเสียงคือ การด่าทอสหรัฐเพื่อเรียกคะแนนนิยมให้กับตนเอง

นายฮุน เซนถ่ายรูปเซลฟี่ กับนางบุน รานี ภรรยา

นายเนลี พิลอร์จ หัวหน้าองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในพนมเปญ กล่าวว่า สหรัฐกลายเป็นผีปีศาจตัวฉกาจไปแล้วในกัมพูชา อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้สูงว่า ฮุน เซน หัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา พยายามนำสหรัฐมาเป็นศัตรูของตัวเอง และใช้เป็นประโยชน์ในการหาเสียง

ก่อนหน้านี้นายฮุน เซน ต้องตกตะลึงกับผลการเลือกตั้งท้องถิ่นในปี 2556 ที่พรรคสงเคราะห์แห่งชาติ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านมีคะแนนตีตื้นขึ้นมาได้ที่นั่งในสภาท้องถิ่นไปจำนวนไม่น้อย

AP Photo

ทั้งนี้การสร้างกระแสเกลียดชังสหรัฐไม่ได้เกิดขึ้นด้วยตัวของมันเองโดดๆ แต่รัฐบาลกัมพูชา มักจะโยกสู่การจับกุมฝ่ายค้าน อย่างการจับนายเขม โสกา ที่ถูกตั้งข้อหาทรยศต่อชาติ พร้อมกับผูกว่ามีสหรัฐให้ท้ายอยู่

นอกจากนี้การปิดสื่ออย่าง เรดิโอ ฟรี เอเชีย และวอยซ์ ออฟ อเมริกา ที่ต่างเป็นสำนักข่าวอิสระได้รับทุนสนบัสนุนจากรัฐบาลสหรัฐก็ปิดตัวลงไปเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่นักข่าวจากเรดิโอ ฟรี เอเชียยังถูกจับสองคนด้วยในข้อกล่าวหาเป็นสายลับให้กับรัฐบาลสหรัฐ

โรนา สมิธ ผู้สังเกตการณ์พิเศษจากสหประชาชาติในกัมพูชาระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะดูไม่จริงจัง เพราะพรรคฝ่ายค้านถูกสกัดกั้นไม่ให้เข้ามาร่วมลงชิงชัย

ส่วนทางด้านสหรัฐ และสหภาพยุโรปได้ตัดเงินช่วยเหลือคณะกรรมการเลือกตั้งแห่งชาติไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และคณะกรรมการเลือกตั้งของกัมพูชาก็เชื่อว่าเป็นเครื่องมือของฮุน เซน อีกด้วย

ในทางกลับกันทางจีน และรัสเซีย เสนอกับรัฐบาลฮุน เซนว่าจะส่งเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้

นายหลี่ เค่อ เฉียง ต้อนรับนายฮุน เซน ในโอกาสเยือนจีนอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมา

ไม่เพียงเท่านั้น ฮุน เซน ยังเคยกล่าวหานายวิลเลียม ไฮดต์ ทูตสหรัฐที่สามารถพูดภาษาเขมรได้อย่างคล่องแคล่วว่าเป็นคนโกหก พร้อมกล่าวหาว่าสหรัฐอยู่เบื้องหลังการฆ่านักวิเคราะห์การเมือง อย่างนายเข็ม เลย์ เมื่อปี 2559

ขณะเดียวกันจีนก็กลายเป็นพี่ใหญ่เข้ามาค้ำจุนกัมพูชาแทน อย่างการทูตเชิงสัญลักษณ์ผ่านการทหารที่มีการฝึกรบร่วมกันระหว่างสองประเทศ อีกทั้งจีนยังบริจาครถถัง และยุทโธปกรณ์ให้อีกด้วย นอกจากนี้จีนยังเข้าไปตั้งสำนักข่าวผลิตบทความเชียร์ฮุน เซน และพิมพ์หนังสือด่าสหรัฐรวมกว่า 700 หน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน