พันธมิตรยุโรปก็ไม่เว้น สหรัฐปัดผ่อนผันกีดกันทางการค้า ฝรั่งเศสขู่แตกหัก

พันธมิตรยุโรปก็ไม่เว้น – เมื่อวันที่ 22 ก.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพยุโรป หรืออียู ภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ดำเนินนโยบายกีดกันการค้ากับทั่วโลก ภายใต้กุศโลบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ว่าทางการสหรัฐปฏิเสธที่จะผ่อนปรนมาตรการกีดกันการค้าให้แม้แต่กับชาติพันธมิตรในทวีปยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศสที่ขู่แตกหักกับสหรัฐทางด้านการค้า

การปฏิเสธดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ หรือจี 20 ที่กรุงบูเอโนส ไอเรสต์ ประเทศอาร์เจนตินา ในทวีปละตินอเมริกา โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ เรียกร้องให้ทั้งชาติยุโรปและจีน ดำเนินการตามสิ่งที่สหรัฐเรียกร้องโดยอ้างว่าเพื่อเคารพการค้าขายต่อกันอย่างเสรีและยุติธรรมต่อสหรัฐ ขณะที่ชาติที่ร่วมประชุมอื่นไม่ยินยอมโดยเฉพาะทางการฝรั่งเศสที่ยืนยันจะปฏิบัติตามข้อบังคับขององค์กรการค้าโลก หรือกดับเบิ้ลยูทีโอ ซึ่งสหรัฐเจตนาฝ่าฝืน พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐเรียกสติตัวเองกลับคืนมาด้วย

นายบรูโน เลอ แมร์ รมว.เศรษฐกิจและการคลังฝรั่งเศส กล่าวโจมตีสหรัฐว่า การตัดสินใจตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากชาติอื่นของสหรัฐเพียงฝ่ายเดียวนั้นไม่มีบรรทัดฐานอยู่บนข้อบังคับสากล เปรียบได้เหมือนกับบ้านป่าเมืองเถื่อน และการค้าโลกไม่สามารถอยู่บนบรรทัดฐานของความเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนได้ นอกจากนี้ ทางการฝรั่งเศสยังปฏิเสธที่จะเจรจากับสหรัฐอย่างเด็ดขาดด้วย

“เราขอปฏิเสธที่จะเจรจากับผู้ที่เอาปืนจ่อขมับเราไว้” และว่า “สหรัฐจำเป็นจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มเพื่อคลี่คลายปัญหาที่สหรัฐสร้างขึ้นเอง” พร้อมขู่ว่า “ฝรั่งเศสคาดหวังว่าผู้นำสหรัฐจะเปลี่ยนใจ เพราะหาไม่แล้ว ฝรั่งเศสก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตอบโต้” คำกล่าวขอฝรั่งเศสเกิดขึ้นหลังทางการจีนเคยประกาศไว้ในรูปแบบเดียวกันว่าจะตอบโต้สหรัฐแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ด้านนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ระบุแสดงความกังวลถึงสถานการณ์สงครามการค้าที่กำลังลุกลามไปทั่วโลกอาจส่งผลให้ร้อยละการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกถดถอยลง มูลค่าอย่างน้อย 4.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 14 ล้านล้านบาท

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน