เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย. กองทัพรัสเซียและกองทัพซีเรียต่างแถลงปฏิเสธความเกี่ยวข้องในเหตุโจมตีทางอากาศไปถูกเจ้าหน้าที่กาชาดเสียชีวิตกว่า 20 ราย บริเวณชานเมืองอเลปโป
“กองทัพอากาศของรัสเซียและซีเรียไม่ได้ปฏิบัติการโจมตีขบวนรถภารกิจบรรเทาทุกข์ของยูเอ็นบริเวณฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอเลปโป” นายอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าว หลังตกเป็นฝ่ายต้องสงสัยในการโจมตีที่ทำให้รถบรรทุกเล็ก 18 คัน จากทั้งหมด 31 คันพังเสียหาย ระหว่างจะเข้าไปส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน
รัสเซียตั้งข้อสังเกตจากภาพวิดีโอด้วยว่า สถานที่ที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวเผยแพร่นั้น สภาพความเสียหายดูเหมือนจะไม่ได้มาจากการโจมตีทางอากาศหรือการใช้กระสุนปืนใหญ่ใดๆ หลังจากสหรัฐระบุว่า เส้นทางการเดินรถและจุดหมายปลายทางของขบวนรถนั้นทางฝ่ายซีเรียกับรัสเซียมีข้อมูลอยู่แล้วรถ
นายสตีเฟน โอไบรอัน หัวหน้าหน่วยบรรเทาทุกข์ของยูเอ็นกล่าวว่า การกระทำนี้หากพบว่าเจตนาจะถือว่าเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม เบื้องต้นยูเอ็นต้องยุติปฏิบัติการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมทั้งหมดในทันที
ส่วนนายสตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ผู้แทนยูเอ็นกิจการซีเรียระบุว่า ยูเอ็นไม่พอใจอย่างมากกับเหตุโจมตีขบวนรถที่เป็นผลลัพธ์จากความพยายามให้ความช่วยเหลือชาวซีเรียที่กำลังเดือดร้อน
การสู้รบครั้งใหม่ในซีเรียเกิดขึ้นหลังการต่อสู้ประปรายช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้งฝ่ายกองทัพซีเรียและฝ่ายต่อต้านต่างกล่าวโทษว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงดังกล่าวที่สหรัฐและรัสเซียเป็นผู้ริเริ่มกำหนดขึ้น ก่อนลุกลามรุนแรงขึ้นเป็นการโจมตีทางอากาศในเมืองอเลปโป