เมื่อวันที่ 27 ก.ย. จาการ์ตาโพสต์และเทมโป รายงานความคืบหน้าคดีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่เกี่ยวพันสองประเทศ เนื่องจากผู้ต้องหาวางยาพิษไซยาไนด์ในกาแฟให้เพื่อนดื่มจนถึงแก่ความตาย ชื่อน.ส.เจสสิกา กุมาลา วงโส เป็นชาวอินโดนีเซีย ส่วนเหยื่อน.ส.มีร์นา ซาฮิลิน เป็นชาวออสเตรเลีย

7237812-3x2-700x467

การไต่สวนคดีเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ก.ย. อัยการเบิกตัวพยานจากออสเตรเลีย ชื่อนายแพทริก โอคอนเนอร์ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขึ้นให้การในฐานะเป็นแฟนเก่าของผู้ต้องหา

Indonesian suspect Jessica Kumala Wongso / AFP PHOTO / ADEK BERRY

Indonesian suspect Jessica Kumala Wongso / AFP PHOTO / ADEK BERRY

นายจอห์น เจ. ทอร์เรส พยานรายดังกล่าว ให้การต่อศาลอาญาจาการ์ตา ว่าเคยคบหากับน.ส.เจสสิกา เมื่อครั้งฝ่ายหญิงอยู่ในออสเตรเลีย ระหว่างความสัมพันธ์เริ่มมีปัญหา หญิงสาวแสดงถึงอาการทางจิตใจไม่มั่นคง เคยขู่จะทำร้ายตัวเอง และเมื่อเลิกกันแล้ว ก็ยังพยายามติดต่อไม่เลิก ทั้งทางโทรศัพท์และส่งข้อความทางโทรศัพท์

Jessica Kumala Wongso / AFP PHOTO / ADEK BERRY

Jessica Kumala Wongso / AFP PHOTO / ADEK BERRY

นอกจากนี้ ศาลที่นิวเซาท์เวลส์ยังเคยออกหมายจับน.ส.เจสสิกา เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2558 หลังจากศาลมีคำสั่งห้ามหญิงสาวเข้าใกล้หรือรุกล้ำนายทอร์เรส แต่วันที่ศาลอ่านคำสั่ง น.ส.เจสสิกาไม่ไปรับฟังที่ศาลด้วย ศาลจึงนัดไต่สวนใหม่ในวันที่ 26 ก.พ.2559 เพราะน.ส.เจสสิกาต้องมาเซ็นรับคำสั่ง
ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว น.ส.เจสสิกาเข้าไปพัวพันคดีก่อเหตุวางยาพิษน.ส.มีร์นา เพื่อนของตนเอง ด้วยการแอบหยดไซยาไนด์ลงในถ้วยกาแฟที่ร้านกาแฟโอวิลิเยร์ ใจกลางกรุงจาการ์ตาในวันที่ 6 ม.ค.2559 หลังจากทะเลาะกัน

ด้านทนายจำเลยพยายามสู้คดีว่า ไม่มีหลักฐานชัดเจนใดๆ เลยแม้กระทั่งลายนิ้วมือว่า น.ส.เจสสิกาเป็นผู้สังหาร อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาให้ความเห็นว่าปริมาณไซยาไนด์ในตัวผู้ตายไม่มีฤทธิ์พอที่จะทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนครอบครัวของน.ส.มีร์นายังคงเชื่อว่า น.ส.เจสสิกาตั้งใจฆ่า เพราะเป็นผู้ออกเงินและนำกาแฟมาให้เหยื่อเอง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน