เมื่อวันที่ 1 เม.ย. บีบีซีรายงานสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในกรุงอาซุนซีออน ประเทศปารากวัย ในทวีปอเมริกาใต้ หลังผู้ประท้วงต่อต้านประธานธิบดีโฮแร็กทิโอ คาร์เตส ผู้นำปารากวัย ก่อเหตุจลาจลและบุกเข้าทุบทำลายข้าวก่อนวางเพลิงในอาคารรัฐสภา

เนื่องจากไม่พอใจที่ประธานธิบดีคาร์เตส พยายามผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อขยายเวลาให้ตัวเองดำรงตำแหน่งผู้นำสมัยที่ 2 ได้หากชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า เนื่องจากรัฐธรรมนูญของปารากวัยอนุญาตให้บุคคลสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำได้เพียง 1 สมัย สมัยละไม่เกิน 5 ปี โดยประธานธิบดีคาร์เตส กำลังจะหมดวาระในปี 2561

(AP Photo/Jorge Saenz)

ขณะที่ฝ่ายค้านระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญดัวกล่าวจะทำให้ระบอบประชาธิปไตยของปรากวัยอ่อนแอลง

ด้านผู้สื่อข่าวเอเอฟพี ระบุว่า การประท้วงดำเนินไปอย่างรุนแรง โดยผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งจุดไฟเผาบริเวณรั้ว ต่อมาจึงบุกเข้าไปภายในพื้นที่ของรัฐสภา และเข้าทุบทำลายทรัพย์สิน รวมทั้งจุดไฟเผาภายในอาคารอีกหลายห้อง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยควบคุมฝูงชนต้องใช้กระสุนยาง และปืนฉีดน้ำแรงดันสูง เข้าสลายการชุมนุม

(AP Photo/Jorge Saenz)

รายงานระบุว่า เหตุจลาจลดังกล่าวเกิดต่อเนื่องจากช่วงเวลาที่บรรดาวุฒิสภาผู้สนับสนุนร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเดินทางมาประชุมหารือกันอย่างไม่เป็นทางการที่รัฐสภา ก่อนจะอนุมัติร่างกฎหมายนี้เพื่อส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติสนับสนุนอีกครั้ง โดยพรรครัฐบาลของประธานธิบดีคาร์เตส มีเสียงข้างมากในสภาดังกล่าว สร้างความโกรธแค้นให้กับผู้ชุมนุมต่อต้าน
ทั้งนี้ ประเทศปารากวัย เคยอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการนานถึง 35 ปี ระหว่างปี 2497 ถึง 2529 โดยพลเอกอัลฟรีโด สตรูสส์เนอร์ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยและมีรัฐธรรมนูญฉบับแรกเมื่อปี 2535 แต่ปารากวัยต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมือง และมีความพยายามก่อรัฐประหารจากกองทัพหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน