วันที่ 4 เม.ย.เว็บไซต์บีบีซีรายงานถึงความผูกพันอย่างลึกซึ้งระหว่างคนกับสุนัขที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางสงคราม ชนิดผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน นอกจากต่างฝ่ายจะช่วยให้อีกฝ่ายรอดตายในสงคราม ยังใช้ชีวิตด้วยกันหลังสงคราม

นายเจฟฟ์ เดอ ยัง นาวิกโยธินสหรัฐประจำการในประเทศอัฟกานิสถานให้สัมภาษณ์บีบีซีถึง ซีนา สุนัขดมกลิ่นตรวจจับระเบิด ชื่อเต็มว่า ซีนา เอ็นซิกซ์โฟร์วัน เพศผู้ พันธุ์ลาบราดอร์

เจฟฟ์เล่าถึงวันที่ไปประจำการช่วงแรกๆ ว่า ช่วงอายุย่าง 18 ปี เริ่มฝึกทหารที่ค่ายฝึกทหารใหม่หน่วยนาวิกโยธิน 15 เดือนต่อมาในปี 2552 ไปประจำการที่ประเทศอัฟกานิสถาน ตอนนั้นกลัวมาก

ที่อัฟกานิสถานมีการจับคนคู่กับหมาตามบุคลิก เจ้าซีนาเป็นหมาเซ่อๆ หน่อยๆ เงียบๆ และตนก็เป็นเด็กแบบเดียวกัน จึงดูเข้าทีที่ได้คู่กัน

“เราทั้งคู่มีชื่อเล่นเวลาอยู่ด้วยกันด้วย ผมชื่อคิด ที่แปลว่าไอ้หนู เพราะผมหน้าเด็ก ส่วนเซนาชื่อชิกเก้นส์ แปลว่าไก่ เพราะเป็นชื่อที่คนจำไม่ค่อยได้

ผมจะฝึกเจ้าเซนา โดยใช้มือ แขน นกหวีดออกคำสั่ง ผมอยู่ในตำแหน่งแถวหน้าของทหารลาดตระเวน ส่วนซีนาจะอยู่ข้างหน้ากว่า ดังนั้นหากพวกเราคนใดคนหนึ่งเดินเหยียบระเบิดเข้า แม้ว่าเราจะบาดเจ็บแต่ทหารที่เหลือจะปลอดภัย อย่างไรก็ตามผมไม่เคยเจอกับสถานการณ์ดังกล่าว

เจ้าซีนาเป็นหมาล่าเหยื่อระดับแชมป์ ได้รับการฝึกให้ตรวจจับระเบิด 300 ชนิด หากเจ้าเซนาได้กลิ่นที่น่าสนใจระหว่างลาดตระเวน มันจะนอนลง ทำท่าให้นาวิกฯ หนุ่มรู้ จากนั้นจึงจะเรียกเจ้าหน้าที่เทคนิคด้านระเบิดมา

จมูกหมาทรงพลังมากกว่ามนุษย์อย่างเราๆ มาก เราได้กลิ่นคุกกี้ แต่หมาได้กลิ่นไปถึงส่วนผสมของคุกกี้ อาทิ แป้ง ลูกจันทน์เทศ เนย ไข่ นม เรียกว่าแยกแยะทุกสิ่งได้ รวมถึงตรวจจับกลิ่นต่างๆ ที่มนุษย์ไม่รู้ว่ามี

ในการทำงานเราจะต้องไว้ใจกัน เพราะมีทหารนาวิกโยธินกว่า 20 นายที่อยู่ข้างหลังเรา ดังนั้นหากมีความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นอาจพาให้ทหารเหล่านั้นถึงขั้นเสียชีวิตได้

สมรภูมิที่เมืองมาร์จาห์เป็นจุดพลิกผันในชีวิต คู่เราถึงเมืองก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น ไม่มีใครคุยกับใคร ไม่มีใครล้อเล่นกัน บรรยากาศตึงเครียดมาก จนกระทั่งได้ยินเสียงลูกปืนแหลมอยู่เหนือหัว ลูกปืนผ่านเราไป ได้ยินเสียงดังหวือคล้ายนกหวีด

ผมกังวลมากห่วงความปลอดภัยเจ้าซีนา ผมทำแม้กระทั่งคร่อมตัวบังมันไว้เพื่อปกป้องจากห่ากระสุน อีกครั้งแบกซีนาขึ้นไหล่ลงฝ่าลงแม่น้ำหนาวเยือกที่กำลังจับตัวเป็นน้ำแข็ง

เจ้าซีนาหนาวมาก แม้ความร้อนจากตัวก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น ดังนั้นผมให้เงินทหารอัฟกันไปหมดกระเป๋า ซึ่งมีอยู่จำนวน 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,400 บาท เพื่อซื้อหาน้ำมันมะกอก ผ้าห่มทหารที่ทำด้วยขนสัตว์ให้มัน

ระหว่างสงครามผมสูญเสียเพื่อนดีๆ ที่ร่วมฝึกกันมา ผมอุ้มเจ้าซีนาและร้องไห้กับมัน ตอนที่ทำใจไม่ได้ผมเข้าไปนั่งทำใจ สงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ โดยมีเจ้าซีนาแอบดูอยู่ที่มุม

ผมเห็นซีนาหูตั้งขึ้นเหมือนตัวการ์ตูน อ้าปากเหมือนกำลังยิ้ม หางเริ่มแกว่งสะบัดไปมาแรงๆ โยกทั้งตัวไปมาหน้าหลังเหมือนกำลังตื่นเต้นเวลาเจอเบคอนซักชิ้น จนทำให้ผมหัวเราะออกมาได้และเริ่มหัวเราะหนักขึ้น จนน้ำตาหยุดไหล

ต่อมาผมตระหนักว่า ทิ้งเจ้าซีนาไม่ลงเพราะนึกห่วงมันมาก ไม่รู้ว่าผู้ดูแลคนต่อไปจะรักมันเหมือนที่ผมรักหรือไม่ ซีนาเป็นหนึ่งเดียวในชีวิตที่ผูกพันอย่างลึกซึ้งในช่วงเวลานั้น”

หลังหนุ่มเจฟฟ์กลับจากสมรภูมิ และจากกับซีนาไปนานเกิน 4 ปี แต่ก็ไม่เคยลืมมัน เพียงคิดว่าความหวังที่จะได้เจอกันอีกจากการลงชื่อขอเลี้ยงมันนั้นริบหรี่ลง จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างอยู่ในวิทยาลัย มีโทรศัพท์มาหาถามว่า คุณชื่อเดอยังใช่มั้ย ฉันชื่อนางก๊อดฟรีย์ คุณอยากจะรับสุนัขดมระเบิดไปเลี้ยงมั้ย” ตอนนั้นหนุ่มเจฟฟ์ตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดว่า รับ..เอาครับเอา

วันนั้นเป็นวันที่ 24 เม.ย.2557 ตอนที่ซีนาเดินออกมา ผมประหม่ามาก เหมือนหนุ่มน้อยเดินเข้าไปที่ลานเต้นรำ มันวิ่งตรงเข้ามาหาผม ผมคุกเข่าลงไปกอดมัน มันพิงผมเหมือนจะบอกว่า เป็นอะไรไปล่ะเพื่อน แล้วก็เริ่มเลียหน้าผม

 

การที่ซีนามาอยู่กับหนุ่มเจฟฟ์ได้ เป็นช่วงหลังเสร็จสิ้นภารกิจไปสมรภูมิรอบที่ 3 ซีนาปลดประจำการด้วยอาการบาดเจ็บที่สะโพก เจ้านายหนุ่มเผยว่า ซีนาคงมีอาการหลอนจากสงครามด้วย คงมีภาพติดอยู่ สังเกตได้จากการที่มันหลับแล้วละเมอวิ่งไปรอบๆ เหมือนฝันร้าย นอนกัดฟัน

ส่วนหนุ่มเจฟฟ์เองก็มีปัญหาในการใช้ชีวิตสมรสจากผลกระทบสงครามที่รบกวนจิตใจ หรือพีทีเอสดี เช่นกัน จนสุดท้ายต้องหย่ากับภรรยา ในปี 2558 หลังมีลูกๆ ด้วยกัน 3 คน แต่เจฟฟ์ยังคงมีซีนาเป็นกำลังใจและช่วยเยียวยา

 

“ตอนนี้ซีนาอายุ 9 ปีครึ่งแล้ว สุนัขคงจะมีชีวิตอยู่ได้ 11-12 ปี ตอนนี้ผมจึงต้องเริ่มทำใจว่า มันอาจจะจากไปในไม่ช้า ผมต้องเตรียมรับสิ่งนั้น” เจฟฟ์กล่าวในตอนท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน