เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ดิ อินดิเพนเดนต์รายงานคำให้สัมภาษณ์ของของคู่รักวัยชราชาวซีเรียในค่ายผู้อพยพ ในฐานะเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองในซีเรียจนสะเทือนใจผู้ที่ได้รับชมและมีการแชร์เรื่องนี้ในเฟซบุ๊กอย่างกว้างขวาง

บทสนทนาเริ่มต้นด้วยอารมณ์ขันของนายอัคเหม็ด วัย 90 ปี หอมแก้มภรรยา ชื่อ นางคาดิยะห์ วัย 75 ปีอวดนักข่าว ก่อนเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการแต่งงานที่ฝ่ายหญิงมีอายุเพียง 11 ปี จากนั้นทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตร่วมกันมาตลอด 64 ปี

นางคาดิยะห์เผยว่า ตอนอายุ 11 ปียังไม่เข้าใจว่าอะไรคือการแต่งงาน และต่างก็ไม่รู้จักกันด้วย ต่อมาเมื่อทั้งคู่ได้แต่งงานและอยู่ด้วยกัน ความรักจึงก่อตัวและเบ่งบานมั่นคง ทั้งสองมีลูกด้วยกัน 8 คน นอกจากนี้นายอัคเหม็ดยังเผยว่าตนรักภรรยาตนมาโดยตลอด ไม่เคยมีปากเสียงกันเลย

“เธอเป็นแม่ของลูกๆ ผม เราไม่เคยโต้เถียง เราไม่เคยวิวาทเลยแม้แต่ครั้งเดียว เรามีชีวิตรักที่ดี” นายอัคเหม็ดกล่าว

ต่อมาเมื่อสงครามกลางเมืองในซีเรียปะทุขึ้น ทั้งคู่ต้องจำใจหนีจากบ้านมาอาศัยอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัย ชีวิตนี้ก็ยากเย็นสำหรับพวกตนมาก กับสภาพในค่ายผู้ลี้ภัยที่มีอาหารและน้ำไม่เพียงพอ รวมไปถึงขาดแคลนอะไรหลายๆ อย่าง รันทดที่ได้เห็นคนขายลูกหรือขายอวัยวะตัวเองเพื่อจะมีเงินไปซื้ออาหารให้สมาชิกในครอบครัว

“เรามีของกินไม่พอ เราไม่มีอะไรเลย ผู้คนอดอยากและหิวโหย พวกเขาไม่มีอะไรที่จะประทังชีวิต เมื่อวานมีชายคนหนึ่งพยายามขายลูกชายตัวเอง คุณเคยได้ยินเรื่องนี้ไหม เขาต้องการขายลูกชายเพื่อแลกกับเงิน 100 ดอลลาร์ (ประมาณกว่า 3,500 บาท)

ผมจึงถามเขาว่าทำไมต้องขายลูกด้วย เขาตอบว่าเขาจะได้มีเงินไปซื้อขนมปังเลี้ยงครอบครัว” คุณตาอัคเหม็ดเล่าเหตุการณ์

“เราน่าจะตายไปก่อนที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับเรา ตอนนี้เราไม่มีใคร สิ่งที่ดีที่สุดคือปล่อยให้เป็นความประสงค์ของพระเจ้า” นางคาดิยะห์กล่าวก่อนที่คู่ตายายนี้จะหลั่งน้ำตาออกมา

“ฉันคิดถึงความตายอยู่หลายครั้ง ฉันจะพูดยังไงดี ฉันหวังว่าทุกคนจะได้กลับบ้านและอยู่แบบปกติสุข ฉันหวังว่าลูกๆของฉันจะได้กลับบ้าน คุณคิดว่าฉันจะได้เห็นหน้าลูกฉันอีกไหม ” คุณยายคาดิยะห์กล่าว

วิดีโอดังกล่าวอัพโหลดลงในเฟซบุ๊กของ สปอตไลต์ ซีเรีย (Spotlight Syria) เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พ.ค. มีผู้เข้าชมกว่าล้านครั้งและแชร์ไปมากกว่า 25,000 ครั้ง แต่กระนั้นก็ตามยังไม่แน่ชัดว่าตา ยายคู่นี้จะยังอยู่ในซีเรียหรืออาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยอื่นในภูมิภาค

นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองยืดเยื้อมาถึงปีที่ 7 ปัจจุบันมีผู้คนถูกบังคับให้หนีออกจากถิ่นฐานกว่า 11 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างต่ำ 40,000 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน