บีบีซีรายงานวันที่ 16 ก.ค. ว่า จากการออกเดินทางสำรวจ “ขยะ” ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ของกัปตัน ชาร์ลส์ มัวร์ นักเดินทางทางทะเล หลายแสนไมล์ทะเล ประเมินว่ามีขยะพลาสติกลอยเป็นแพอยู่ในทะเล ถ้ารวมกันแล้วจะกินพื้นที่กว้างถึง 2.5 ล้านตารางกิโลเมตร
กัปตันมัวร์ ผู้ก่อตั้งทีมวิจัยทางทะเลอัลกาลิตา เพื่อต่อสู้กับขยะในทะเลมากว่า 30 ปี กล่าวว่า พื้นที่ในมหาสมุทรที่มีกระแสน้ำล้อมรอบนั้นตอนนี้เต็มไปด้วยขยะของชาวโลก ตอนนี้จึงพบขยะทั้งในทะเลแปซิฟิกใต้ อาร์กติก และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
หัวหน้าทีมอัลกาลิตากล่าวต่อว่า ขยะที่อยู่ในแปซิฟิกใต้ต่างจากแปซิฟิกเหนือตรงที่ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมประมง
กัปตันมัวร์
ดร.เอริก ฟาน เซบิลล์ นักวิทยาศาสตร์การทะเล มหาวิทยาลัยอูเทรชต์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า การสำรวจของกัปตันมัวร์เป็นประโยชน์มาก ขยะพลาสติกเหล่านี้เคยลอยเป็นแพอยู่แปซิฟิกเหนือ ที่พบเห็นเมื่อปี 2540 ก่อนเคลื่อนลงตามกระแสน้ำมายังแปซิฟิกใต้ในปัจจุบัน
ดร.ฟาน เซบิลล์กล่าวว่า ตอนนี้หายากแล้วที่จะไม่มีทะเลที่ใดไม่มีขยะ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ต่างรู้ว่ามลพิษจากพลาสติกนั้นเป็ยปัญหาใหญ่ แต่หากไม่รู้ว่าขยะอยู่ตรงไหนของมหาสมุทรแล้ว ก็จะแก้ปัญหาไม่ถูกจุด
สำหรับการวิจัยในอนาคตต้องมุ่งไปที่การศึกษาภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับระบบนิเวศ ดร.ฟาน เซบิลล์กล่าวว่า ทุกครั้ง ทีมงานพบความเสี่ยงต่อระบบนิเวศจากส่วนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในแพขยะเหล่านี้
อนาคต ดร.ฟานเซบิลล์ยังหวังว่าจะเข้าใจให้ได้ว่าขยะพลาสติกไปลงเอยตามชายฝั่งได้อย่างไร รวมถึงถูกพายุซัดลงมหาสมุทรได้อย่างไร การขัดขวางกระบวนการเหล่านี้ จึงเป็นกลไกที่จะหยุดการเพิ่มจำนวนของขยะพลาสติกในทะเลได้
“การทำความสะอาดหาดอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่จะช่วยทำความสะอาดมหาสมุทร” ดร.ฟาน เซบิลล์ กล่าว
ส่วนกัปตันมัวร์ กล่าวเสริมว่า การใช้พลาสติกของชาวโลกยังไม่มีวี่แววจะจบลงในเวลาอันสั้น มลพิษจากพลาสติกนั้นเดินทางข้ามพรมแดนประเทศ ดังนั้นการจะรับมือต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ
