วันที่ 12 ส.ค. ไชน่าเดลี่รายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ผู้นำจีน ต่อสายตรงถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือถึงกรณีที่เกาหลีเหนือข่มขู่ว่าจะยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) 4 ลูก ไปยังเกาะกวม สถานที่ตั้งฐานทัพและดินแดนภายใต้การปกครองของสหรัฐในช่วงกลางเดือนส.ค. ภายหลังทางการจีนแถลงเตือนว่าสหรัฐ และเกาหลีเหนือไม่ควรเล่นกับไฟ หลังจากทั้งสองฝ่ายเปิดศึกน้ำลายข่มขู่กันไปมาจนน่าวิตกว่าจะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายเกินแก้ไข

จากการหารือทางโทรศัพท์ ผู้นำสองชาติมหาอำนาจยังคงย้ำว่ามีความคิดเห็นตรงกันต่อนโยบายลดอาวุธนิวเคลียร์ และสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี ด้านนายทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐพร้อมที่จะเจรจาและประสานงานกับรัฐบาลจีนเกี่ยวกับประเด็นสำคัญทั้งในระดับภูมิภาค และระหว่างประเทศ ขณะที่นายสี จิ้นผิง ระบุหวังว่าทุกฝ่ายจะมีความยับยั้งชั่งใจ และระงับการกระทำใดๆ ที่จะยิ่งเติมเชื้อไฟให้ประทุขึ้น ด้านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือ เผยแพร่บทบรรณาธิการประณามนายทรัมป์ว่าทำให้สถานการณ์เลวร้าย รวมถึงผลักดันให้คาบสมุทรเกาหลีตกอยู่ในภาวะเข้าใกล้สงครามนิวเคลียร์เพียงแค่ตาขยิบ

วันเดียวกัน บีบีซีรายงานว่าท่ามกลางความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี กระทรวงรวมชาติแห่งเกาหลีใต้ พร้อมด้วยสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี เดินหน้าจัดงาน “ดีเอ็มซีคอนเสิร์ต” คอนเสิร์ตประจำปีเพื่อกระชับความสัมพันธ์และสันติภาพของสองชาติเกาหลีที่สวนสาธารณะนูรี พีซ พาร์ก ใกล้เขตปลอดทหาร (ดีเอ็มซี) ในเมืองปาจู ทางตอนเหนือของกรุงโซล ซึ่งในปีนี้จัดระหว่างวันที่ 12-13 ส.ค. และมีวงเคพ็อพชื่อดัง อาทิ เกิร์ลเจเนอเรชั่น หรือโซนยอชิแด และบีท็อป ขึ้นเวทีด้วย

แม้ฝั่งเกาหลีใต้จะยืนกรานว่าจัดคอนเสิร์ตขึ้นเพื่อกระชับมิตร แต่เกาหลีเหนือมองว่าเป็นนโยบายโฆษณาชวนเชื่อเพื่อปลุกปั่นชาวเกาหลีเหนือ หลังจากชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์จำนวนมากระบุว่า การแสดงบนเวทีดีเอ็มซีคอนเสิร์ตซึ่งมีทั้งเคพ็อพ และดนตรีเกาหลีแบบดั้งเดิม ทำให้พวกตนตระหนักว่ามีโลกที่อยู่นอกเกาหลีเหนือมีการพัฒนาไปไกล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน