เมื่อวันที่ 15 ส.ค. เว็บไซต์นิตยสารไทม์รายงานถึงภาพที่ชาวอเมริกันแห่แชร์ทั่วโลกออนไลน์ เป็นภาพเจ้าหน้าที่ผิวดำยืนอย่างสงบ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองกลุ่มขาวจัดที่มาประท้วงตะโกนถ้อยคำเหยียดผิว ทำท่าแบบนาซี ใส่หมวกคลุมสีแดง ชูธงของสมาพันธ์รัฐหรือของทหารฝ่ายใต้ ซึ่งสนับสนุนระบอบทาสผิวดำในสมัยสงครามกลางเมืองสหรัฐ

หลายคนเขียนว่าภาพๆ นี้ตอกย้ำถึงประโยคที่ว่า “หนึ่งภาพมีค่าล้านคำพูด”

ขณะที่นายเจมส์ พี.โอเนลล์ คณะกรรมาธิการกรมตำรวจนครนิวยอร์ก ชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์สำหรับการรับมือกับเหตุการณ์ประท้วงอย่างเป็นมืออาชีพ ด้วยความเคารพอย่างสูง

ด้าน ยาชาร์ อาลี นักเขียนนิวยอร์ก แม็กกาซีน ชี้ว่า ภาพนี้ควรได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลพูลิตเซอร์ รางวัลระดับชาติของสหรัฐที่มอบให้กับวงการสิ่งพิมพ์ ตำรวจผิวดำคุ้มครองกลุ่มชายที่ต้องการทำร้ายตนเอง

ภาพนี้แพร่หลายในวันที่ 12 ส.ค. ตรงกับวันเกิดเหตุสมาชิกขวาจัดขับรถเก๋งพุ่งชนฝูงชนที่มาต้านการประท้วงเหยียดสีผิว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ น.ส.ฮีทเธอร์ เฮเยอร์ อายุ 32 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 19 คน

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 ส.ค. (Ryan M. Kelly/The Daily Progress via AP)

ส่วนเหตุการณ์ภาพตำรวจผิวดำต้องมายืนคุ้มกันกลุ่มขวาจัด เกิดขึ้นในเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ขณะที่กลุ่มคู คลักซ์ แคลนประท้วงการย้ายอนุสาวรีย์นายพลโรเบิร์ต อี.ลี ผู้นำสหพันธ์ทหารฝ่ายใต้

เจ้าหน้าที่ในภาพคือ นายดาเรียส แนช ซึ่งเจ้าตัวกล่าวหลังภาพแชร์สะพัดไปทั่วโลกออนไลน์ว่า ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่

“ผมสาบานว่าจะคุ้มครองเมืองของผม ทำให้ผมอยู่ตรงนั้นเพื่อทำหน้าที่ ผมไม่คิดว่าสิ่งนี้ทำให้ผมเป็นฮีโร่ขึ้นมา ผมเพียงทำในสิ่งที่ผมเชื่อ” นายแนชกล่าว พร้อมเผยว่าสะเทือนใจกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น เพื่อนของภรรยาก็รู้จักน.ส.ฮีทเธอร์ เฮเยอร์ เหยื่อที่ถูกรถชนเสียชีวิตด้วย

เจ้าหน้าที่ดาเรียส แนช

รูปถ่ายโดยน.ส.จิล มูมี อายุ 42 ปี จากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งมาร่วมต่อต้านการเหยียดสีผิวของกลุ่มดังกล่าวด้วย แล้วอัพโหลดภาพลงอินสตาแกรมส่วนตัว

“คุณเห็นภาพคนที่เป็นมืออาชีพและคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกอย่างเสรีของชาวอเมริกัน และคุณก็ได้ยินถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชังอยู่ข้างหลังคนที่คุ้มครองตัวเองอยู่ รูปนี้รวมทุกอย่างที่กล่าวไว้หมดจริงๆ” น.ส.มูมีกล่าว

สำหรับน.ส.มูมีมองว่ารูปแสดงถึงการข่มใจและความยืดหยุ่น เหมือนที่นางมิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกล่าวไว้ว่า “เมื่อพวกเขาถลำลงไปต่ำ เราต้องขยับให้สูงขึ้น”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน