วันที่ 16 ส.ค. เอเอฟพีรายงานว่า นายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แถลงชื่นชมและเร่งเร้าให้ตำรวจทำผลงานสังหารผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดทุกวัน หลังจากปฏิบัติการจู่โจม “สะท้านสะเทือน” ในสัปดาห์นี้ สังหารผู้ต้องสงสัยไปแล้วอย่างน้อย 32 รายในพื้นที่จังหวัดบูลากัน ใกล้กรุงมะนิลา
“พวกที่เพิ่งตายไป 32 ศพที่บูลากันนั่นดีแล้ว ถ้าเราฆ่าได้ทุกวันๆ ละ 32 ศพ ก็อาจจะลดเชื้อร้ายให้ประเทศนี้ได้ เราต้องทำให้พวกค้ายามันสะท้านสะเทือนบ้าง พวกนั้นจะได้คิดสองรอบว่าจะอยู่ในวงจรค้ายาอยู่หรือไม่” นายดูแตร์เตกล่าวกับสมาชิกองค์การต่อต้านอาชญากรรม
ผู้นำฟิลิปปินส์นายดูแตร์เตกล่าวย้ำอีกครั้งว่า ตอนนี้ยังเอาชนะปัญหายาเสพติดได้ไม่เร็วพอตามที่ให้สัญญาไว้ เพราะไม่มีหนทางอื่นที่แก้ปัญหายาเสพติดได้โดยเร็ว และว่า ก่อนเข้ามานับตำแหน่งประธานาธิบดี ไม่เคยรู้มาก่อนว่าปัญหาการทุจริตเป็นวงกว้างในหน่วยงานรัฐต่างๆ เช่น ตำรวจ และ ศุลกากร
“ผมรู้เพียงน้อยนิดว่า ตำรวจที่ไม่คิดอยู่ข้างผม ถือว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน และรู้เพียงน้อยนิดว่า หน่วยงานที่ผมพึ่งพา (ศุลกากร) ให้ปกป้องการลักลอบยาเสพติดจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศนั้น เป็นตัวการหนึ่งที่นำเข้ายาเสพติด”
ก่อนหน้านี้ โรมีโอ คารามัต ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดบูลากัน แจกแจงรายละเอียดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมผู้ต้องสงสัยว่า นอกจากสังหารไปแล้ว 32 ราย ยังจับกุมผู้ต้องสงสัยอีก 109 คน พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนและระเบิดมือในปฏิบัติการจู่โจมครั้งนี้ด้วย ส่วนตำรวจไม่มีบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เมื่อนักข่าวถามว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีตำรวจบาดเจ็บ หากเจ้าหน้าที่จู่โจมทำเพื่อป้องกันตัวเอง ผบ.ตร.บูลากันกล่าวว่า “อย่าถามเพื่อผมให้อธิบายมาก”
ตั้งแต่นายดูแตร์เตเปิดสงครามกวาดล้างยาเสพติดตั้งแต่ขึ้นรับตำแหน่งปีที่แล้ว ตำรวจสังหารผู้ต้องสงสัยไปแล้วราว 3,450 ราย และอีก 2,000 รายถูกฆ่าตัดตอนในวงจรค้ายา ส่วนอีกนับพันตายไปด้วยโดยไม่มีคำอธิบาย