อินไซด์ต่างประเทศ

วิจักขณ์ ชิตรัตน์

ใน 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าชายซาอุดีอาระเบีย 3 คน ที่อาศัยอยู่ในยุโรปได้หายสาบสูญไป แต่ไม่ใช่โดยไร้ร่องรอย ทั้ง 3 คนเป็นเจ้าชายที่ไม่ชอบรัฐบาลซาอุฯ ไม่ว่าจะปัจจุบันหรือก่อนหน้านี้ จึงมักวิจารณ์รัฐบาล เช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน การทุจริตในกลุ่มราชวงศ์ และเรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศ

คนแรกคือ เจ้าชายซาอูด บิน ซาอิฟ ซึ่งไม่ใช่สายสกุลที่มีอำนาจนัก แต่หลงใหลชีวิตหรูหราในยุโรป ในปี 2014 เริ่ม วิจารณ์รัฐบาลและเมื่อถึงปี 2015 ซึ่งพระราชาธิบดีซาลมาน (คนปัจจุบัน) ขึ้นครองราชย์ แล้ว ก็มีเจ้าชายซาอุฯ อีกคนหนึ่งเขียนจดหมายเรียกร้องให้ยึดอำนาจจากซาลมาน เจ้าชายซาอูฯ ที่อยู่ในยุโรปก็ออกมาสนับสนุน

จากนั้นเจ้าชายซาอูดก็ถูกลักพาตัวจากมิลาน (อิตาลี) โดยถูกหลอกว่าให้ไปเจรจาธุรกิจกับชาวยุโรปที่โรม ด้วยเครื่องบินส่วนตัว แต่เมื่อขึ้นไปแล้วเครื่องกลับบินไปซาอุฯ แทน

คนที่สองคือ เจ้าชายเตอรกี บิน บันดาร์ ซึ่งเป็นสายที่มีอำนาจทีเดียว คนนี้อาศัยอยู่ในปารีส เคยเป็นตำรวจมาก่อน และรับผิดชอบ การรักษาความปลอดภัยของราชวงศ์ แต่แล้วก็ติดคุก และถูกปล่อยตัวในปี 2012

จากนั้นเขาก็ลี้ภัยและวิจารณ์รัฐบาล เรียกร้องให้ปฏิรูป ทางการพยายามเกลี้ยกล่อมให้กลับซาอุฯ แต่ถูกตลบหลัง เพราะเตอรกีอัดเทปสทนากับเจ้าหน้าที่ซาอุฯ แล้วเอาไปลงสื่อออนไลน์ ในปี 2015 เขาไปเที่ยวโมร็อกโก ซึ่งสนิทกับรัฐบาลซาอุฯ มาก เขาจึงถูกจับที่นั่น และถูกเนรเทศกลับซาอุฯ

คนสุดท้ายคือ เจ้าชายสุลต่าน บิน เตอรกี อยู่ในสายสกุลหลักที่มีอำนาจเช่นเดียวกับพระราชาธิบดีซาลมาน แต่กรณีของ องค์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งเขาลี้ภัยอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 2003 ถูกหลอกให้ไปทานอาหารเช้าที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในเจนีวา แล้วก็ถูกลักพาตัวจากที่นั่นโดยใช้กำลัง และในสภาพหมดสติ แต่ด้วยความที่อยู่ในสายสกุลที่มีอำนาจมาก และสุขภาพไม่ค่อยดี ในปี 2010 รัฐบาลซาอุฯ จึงปล่อยให้เดินทางไปรักษาตัวที่เมืองบอสตัน

แต่สุลต่านใช้โอกาสนี้ไปสวิสฯ และฟ้องศาลสวิสที่รัฐบาล ซาอุฯ ลักพาตัวเขาในปี 2003 จากนั้นเขาก็ลี้ภัยต่อในฝรั่งเศส จนปี 2016 เขาต้องการไปเยี่ยมพ่อที่อยู่ที่อียิปต์ แต่กงสุลซาอุฯ ประจำปารีสเสนอ “ความสะดวกสบาย” ให้ คือให้ไปเครื่องบินเจ็ตขนาดเล็กแทน สุลต่านหลงกล และเครื่องบินก็บินลงซาอุฯ แทนที่จะไปไคโร และที่สนามบินซาอุฯ ก็มีทหารพร้อมอาวุธ ครบรอ “อำนวยความสะดวก” อยู่พร้อมเพรียง

หากข้ามเรื่องรัฐบาลซาอุฯ กับเจ้าชายของเขาไปแล้ว สิ่งที่ น่าคิดอย่างมากก็คือ เที่ยวบินที่เจ้าชายสุลต่านถูกหลอกว่าจะไปไคโรนี้ มีผู้โดยสารต่างชาติอื่นอยู่อีก 18 คนด้วย ทั้ง 18 คนนี้ ถูกเชิญไป “พัก” ที่โรงแรมในซาอุฯ อยู่ 3 วัน โดยไม่ให้ติดต่อใคร ไม่มีโทรศัพท์ จากนั้นจึงอนุญาตให้ทั้งหมดเดินทางไปยังที่ ที่ต้องการได้ พร้อมคำขอโทษ ที่ทำให้เกิด “ความไม่สะดวก” !

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน