วันที่ 22 ส.ค. บีบีซีรายงานว่า เคมบริดจ์ ยูนิเวอร์ซิตี เพรส สำนักพิมพ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เปลี่ยนใจไม่เซนเซอร์เนื้อหาที่จีนขอมา หลังนักวิชาการประท้วงท่าทีเดิมของสำนักพิมพ์ที่จะยอมตามคำขอทางการจีน

มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ / BBC

เดิมสำนักพิมพ์ตกลงที่จะเซ็นเซอร์บทความกว่า 300 ชิ้น ที่มีเนื้อหาอ่อนไหวต่อทางการจีน รวมถึงเนื้อหาเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เพราะโดนจีนตั้งเงื่อนไขว่าหากสำนักพิมพ์เคมบริดจ์ไม่เซ็นเซอร์เนื้อหาตามที่จีนขอมา สำนักพิมพ์จะตีพิมพ์เนื้อหาในประเด็นอื่นๆ เผยแพร่จำหน่ายในจีนไม่ได้อีก

ถ้อยคำที่แถลงเมื่อวันศุกร์ ที่ 18 ส.ค. สำนักพิมพ์เคมบริดจ์ระบุว่า “เรายืนยันได้ว่าได้รับคำสั่งจากหน่วยงานด้านการนำเข้าของจีนให้บล็อกหรือปลดบทความของบุคคลใดๆ จากเดอะไชน่า ควอร์เตอร์ลี ในจีน เราทำตามคำร้องขอแรกของจีนที่จะกำจัดบทความของบุคคล เพื่อรับประกันว่าวัสดุทั้งหลายที่เราพิมพ์หรือเผยแพร่ด้านการศึกษาและวิชาการนั้นนักวิจัยและผู้ศึกษาในจีนยังคงใช้ได้อยู่”

อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางสำนักพิมพ์เปลี่ยนใจหลังมีการประท้วงจากนักวิชาการจากทั่วโลก ต่อต้านความพยายามของจีนที่จะ”ส่งออก”การเซนเซอร์เนื้อหาที่ไม่ถูกใจจีน

นายทิม พริงเกิล บรรณาธิการนิตยสาร เดอะไชน่า ควอร์เตอร์ลี นิตยสารแนวหน้าด้านจีนศึกษา ซึ่งได้รับผลกระทบเพราะหลายบทความถูกบล็อก กล่าวยินดีต่อท่าทีใหม่ของสำนักพิมพ์เคมบริดจ์ ว่า

“การเข้าถึงเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงสุดคือส่วนสำคัญของการค้นคว้าวิจัยทางวิชาการ และว่าไม่ได้เป็นบทบาทของสำนักพิมพ์ระดับโลกที่ได้รับการเคารพอย่างสำนักพิมพ์เคมบริดจ์ที่จะขวางการเข้าถึงดังกล่าว”

ดร.พริงเกิลกล่าวกับบีบีซีด้วยว่า ความตั้งใจเดิมของทางสำนักพิมพ์ที่จะกำจัดบทความนั้น เป็นความขัดแย้งระหว่างเสรีภาพทางวิชาการกับแรงดึงดูดจากตลาดจีน เป็นประเด็นที่สำคัญ

“ในฐานะบรรณาธิการนิตยสารชั้นนำด้านจีนศึกษา เราได้วางเสรีภาพทางวิชาการอยู่เหนือตัวเลือกอื่นๆ ทั้งมวล อย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่า ทางเราก็ไม่ได้ดูถูกจุดยากลำบากที่ทางสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เผชิญอยู่ ซึ่งทางสำนักพิมพ์แจ้งผมว่า จะนำบทความมาเผยแพร่อีกทันที” ดร.พริงเกิลกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน