เอพีรายงานเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ว่านายไซอิด ราอัด อัล-ฮุสเซน หัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวประณามปฏิบัติการด้านความมั่นคงในรัฐยะไข่ของพม่าว่า ความรุนแรงและความอยุติธรรมที่ชาวโรฮิงยาดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นตัวอย่างในตำราเรียนเรื่องกวาดล้างชาติพันธุ์ ยิ่งเมื่อได้รับรายงานการวางกับดักตามแนวพรมแดนด้วยแล้วยิ่งน่าอดสู
“รัฐบาลพม่าควรเลิกเสแสร้งว่าชาวโรฮิงยาเผาบ้านตัวเองและทิ้งซากไว้ในหมู่บ้านได้แล้ว เพราะนั่นเป็นการไม่ยอมรับความจริง” นายฮุสเซนกล่าว ขณะที่ยูเอ็นประเมินสถานการณ์ว่ามีผู้เสียชีวิตในวิกฤตนี้แล้ว 1,000 ราย และมากกว่า 300,000 คนอพยพหนีตายไปยังบังกลาเทศ นับจากการกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.
Rohingya refugee /AFP PHOTO / MUNIR UZ ZAMAN
วันเดียวกัน เทนซิน เกียตโซ ทะไลลามะองค์ที่ 14 ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบต ตรัสถึงวิกฤตนี้ เรียกร้องให้นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ เร่งหาหนทางยุติปัญหาดังกล่าวอย่างสันติ
Local Bangladeshis help Rohingya Muslim refugees. AFP PHOTO / MUNIR UZ ZAMAN
“ใครก็ตามที่ใช้ความรุนแรงไม่ว่าทางใดในการต่อต้านชาวมุสลิมโรฮิงยา พวกเขาควรระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะพระองค์จะทรงช่วยเหลือชาวมุสลิมที่ทุกข์ยากเหล่านั้นอย่างแน่นอน อาตมาขอเรียกร้องถึงท่านและบรรดาผู้นำของท่านให้แก้ปัญหาสังคม รวมทั้งฟื้นฟูความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประชาชนด้วยจิตวิญญาณของความสงบสันติและประนีประนอม” องค์ทะไล ลามะกล่าว
