วันที่ 25 ก.ย. เว็บไซต์เดลีเมล์รายงานว่า คู่รักนักปีนเขาช่วยเจ้าสุนัขเพศเมีย อายุ 13 ปีที่ติดอยู่ตามลำพังบนยอดเขาบรอส ในรัฐโคโลราโด สูงราว 14,000 ฟุต หรือราว 4,670 เมตรนานถึง 6 สัปดาห์ หลังหนีจากเจ้าของไปกับหมาตัวอื่น จนน้ำหนัดลดฮวบไปราว 29 กิโลกรัม ผอมเห็นโครงกระดูก
เหตุเกิดที่รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เมื่อน.ส.ทรินิตี สมิธ และนายณอน นิโคลส์ ได้ยินเรื่องราวเจ้าโคลอี้ สุนัขตัวดังกล่าวหลังคนโพสต์เฟซบุ๊กว่าได้ยินเสียงสุนัขร้องระหว่างที่ปีนเขา ขณะที่เจ้านายโคลอี้พยายามตามหามันหลังโคลอี้วิ่งตามหมาเพื่อนบ้านอีกตัวแล้วหายไป
ทั้งคู่ใช้เวลากว่า 2 วันพาเจ้าโคลอี้ที่ร้องครางหงิงๆ อยู่บนยอดเขาบรอส ห่างจากนครเดนเวอร์ราว 160 กิโลเมตร และเป็นหนึ่งใน 14 ยอดเขาที่สูงที่สุดในรัฐโคโลราโด ลงมาได้
ประกาศหาตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.
น.ส.สมิธตัดสินใจไม่กลัวอุปสรรคและปีนเขาเพื่อดูว่าตนเองจะรู้ที่อยู่ของเจ้าโคลอี้ได้หรือไม่ จนเมื่อได้ยินเสียงร้องของมัน น.ส.สมิธจึงเรียกแฟนหนุ่มให้ช่วยเพราะมืดแล้วและการปีนขึ้นบนพื้นที่ลาดเอียงและสูงชันอาจเป็นอันตรายได้
ผอมหนังติดกระดูก
ทั้งสองย้อนกลับมาในวันถัดไป ด้วยการขับรถจี๊ปและร้องเรียกหาเจ้าโคลอี้อยู่ 4 ชั่วโมง จนเจ้าโคลอี้หยุดเห่าตอบ แต่ทั้งสองไม่เลิกหวัง ในที่สุดพบเจ้าโคลอี้ติดแหง็กอยู่บนยอดเขา นายนิโคลส์อุ้มเจ้าโคลอี้และค่อยๆ ไต่พื้นหินลงมาพร้อมกับเจ้าโคลอี้ในอ้อมแขน
อุ้มลงมาได้ในที่สุด
น.ส.สมิธโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า หลังข่าวลือว่าสุนัขกำลังร้องไห้ และ 2 วันของการปีนเขาฝ่าด่านทุลักทุเล ในที่สุดก็นำเจ้าโคลอี้ที่รักลงมาอย่างปลอดภัย เจ้าหมาที่น่าสงสารติดอยู่บนหน้าผา กว่า 1 เดือน ครั้งหนึ่งมันเคยหนัก 40 กิโลกรัมตอนนี้ลดเหลือ 11.7 กิโลกรัม
“ดีใจที่เจ้าโคลอี้ออกจากภูเขาได้และได้กลับไปพร้อมเจ้าของมัน”น.ส.สมิธกล่าว
หลังช่วยเจ้าโคลอี้แล้ว ทั้งคู่ไปร้านค้าเพื่อซื้อหาอาหารและพามันไปคืนให้นายแลร์รี่ ออสบอร์นเจ้าของ นายออสบอร์น ขอบคุณนิโคลส์กับสมิธที่ช่วยเจ้าหมาของตนไว้ และว่าร่างกายเจ้าโคลอี้ค่อยๆสุขภาพดีขึ้น
ก่อนทิ้งท้ายว่าดีจริงๆ ที่ได้รู้ว่าแม้โลกเต็มไปด้วยสิ่งร้ายๆ แต่ก็ยังมีสิ่งดีๆอยู่มากมายเช่นกัน
