เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เอเอฟพีรายงานสถานการณ์ความไม่สงบในรัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตกของพม่า ว่า สำนักงานการศึกษาพม่าระบุว่าโรงเรียนในพื้นที่เมืองหม่องดอว์ และบูตีต่อง เปิดทำการอีกครั้ง หลังปิดมานานกว่า 1 เดือนจากการปราบปรามกองกำลังปลดปล่อยอารกันโรฮิงยา (อาร์ซา) ของกองทัพพม่า ซึ่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุเชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 ราย และอย่างน้อย 500,000 คนอพยพหนีตายไปอาศัยอยู่ที่ค่ายพัพิงผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ รวมถึงชาวพุทธและชาวฮินดูในรัฐยะไข่กว่า 30,000 คน

เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาของพม่าระบุว่าพื้นที่ปะทะระหว่างกองทัพและกองกำลังอาร์ซาเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ปกติ และปลอดภัยมากพอที่เด็กๆ จะกลับมาเรียนหนังสือ อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าดังกล่าวไม่รวมโรงเรียนสำหรับเบงกาลี ชื่อที่ทางการพม่าเรียกชาวโรฮิงยา

วันเดียวกัน ตำรวจศรีลังกาแถลงจับกุมผู้ต้องสงสัย 6 คน เป็นชาย 5 คน และหญิงอีก 1 คน รวมกลุ่มซึ่งนำโดยพระสงฆ์สายสุดโต่ง ก่อเหตุโจมตีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาที่อพยพเข้ามาอาศัยในค่ายพักพิงชั่วคราวบริเวณชานกรุงโคลัมโบ เมื่อสัปดาห์ก่อน

Sinhale Jathika Balamuluwa – Officlal.

ด้านรัฐบาลศรีลังกาประณามพระสงฆ์ที่อยู่เบื้องหลังว่ามีพฤติกรรมเหมือนไม่ใช่คน จากการบุกทำร้ายชาวมุสลิมโรฮิงยา รวมถึงเด็กๆ ผู้บริสุทธิ์ ด้วยการขว้างปาก้อนหินใส่ค่ายพักพิง ซึ่งยังทำให้ตำรวจ 2 นายได้รับบาดเจ็บสาหัสจากความพยายามควบคุมสถานการณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน