วันที่ 11 ต.ค. นิวยอร์กไทมส์รายงานโศกนาฏกรรมเหตุไฟป่าไหม้ในพื้นที่ทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ถิ่นผลิตไวน์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ว่าในจำนวนผู้เสียชีวิต 17 รายนั้นมีคู่รักอาวุโสอายุนับร้อยปีรวมอยู่ด้วย

นายชาร์ลส์ ริปพีย์ อายุ 100 ปีและภรรยาชื่อซารา อายุ 98 ปี เสียชีวิตพร้อมกันในบ้านพักที่เขตนาปา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ต.ค. ขณะไฟโหมลุกลามอย่างรวดเร็ว และทั้งสองหนีไม่ทัน

“เราที่เป็นลูกๆ ต่างพูดกันว่าจะเป็นอย่างไรหากคนใดคนหนึ่งรอดแต่อีกคนจากไปแล้ว เพราะทั้งสองไม่สามารถจะอยู่โดยปราศจากอีกคนได้ การที่ท่านจากไปพร้อมกันอาจจะเป็นความต้องการของท่านจริงๆ” นายไมก์ ริปพีย์ ลูกชายอายุ 71 ปีกล่าว หลังจากเดินทางมายังบ้านของพ่อแม่ในวันที่ 10 ต.ค.

Charles and Sara Rippey. (Courtesy Michael Rippey via AP)

สำหรับคู่รักอมตะคู่นี้จบการศึกษาจากสถาบันเดียวกันที่มหาวิทยาลัยแห่งวิสคอนซิน-เมดิสัน จากนั้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นายชาร์ลส์ทำงานเป็นวิศวกรที่บริษัทยางไฟร์สโตน ทั้งสองจึงแต่งงานกันก่อนที่นายชาร์ลส์จะถูกเกณฑ์ไปร่วมสงครามในพื้นที่แอฟริกาตอนเหนือ อิตาลี และฝรั่งเศส

นายไมก์ ริปพีย์ ลูกชายดูสภาพซากบ้านที่ถูกเพลิงเผาวอด (AP Photo/Rich Pedroncelli)

กระทั่งสงครามสิ้นสุดลง นายชาร์ลส์จึงกลับมาสร้างครอบครัวกับภรรยา ซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ทั้งสองมีลูกด้วยกัน 5 คน นายชาร์ลส์มักเอาอกเอาใจภรรยา ชอบซื้อเครื่องประดับให้และเรียกหวานใจว่า “ควีน”

ทั้งสองมีบ้านและอาศัยอยู่ในเขตนาปา กว่า 35 ปี กระทั่งในช่วงเกิดไฟป่า นายไมก์ ลูกชาย อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ส่วนน้องชายอีกคนที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เล่าว่า นาทีที่ไฟลามมาถึงที่บ้านพ่อแม่ ตอนนั้นมีเจ้าหน้าที่พยาบาลอยู่ในบ้านและพยายามจะช่วยทั้งสอง จังหวะที่อุ้มนางซาราขึ้นนั่งรถเข็นได้ จึงจะรีบไปตามนายชาร์ลส์ แต่ไฟไหม้เร็วมากจนหลังคาถล่มลงมา ทำให้ทั้งสองเสียชีวิต

ลูกๆ ของนายชาร์ลส์และนางซารา ค้นหาของที่อาจหลงเหลือให้เป็นที่ระลึกถึงพ่อแม่ / New York Times

ไฟป่าครั้งนี้นอกจากคร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 17 ราย ยังสูญหายอีกกว่า 150 คน บ้านเรือนกว่า 1,500 หลังเสียหาย ไฟลามกินพื้นที่ ราว 465 ตารางกิโลเมตร บ้านและธุรกิจกว่า 91,000 แห่งไม่มีไฟฟ้าใช้

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอนุมัติให้ประกาศเป็นพื้นที่หายนะให้เบิกจ่ายความช่วยเหลือจากส่วนกลาง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน