เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานโศกนาฏกรรมในเหตุไฟป่าลุกลามรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อคู่รักนามสกุลแบร์ริซ นายอาร์แมนโด อายุ 76 ปี และนางคาร์เมน อายุ 75 ปี ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานาน 55 ปี ต้องพรากจากกันขณะที่ทั้งสองลงไปหลบไฟป่าในสระน้ำหลายชั่วโมงข้ามคืย กระทั่งพ้นนาทีวิกฤตแล้ว สามีจึงพบว่าภรรยาสิ้นลมขณะอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง

สถานการณ์ไฟป่าลุกลามในรัฐแคลิฟอร์เนียยังคงน่าวิตก หลังผ่านพ้นมาเกือบสัปดาห์ ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 40 รายแล้ว ขณะที่บ้านเรือนถูกเผาทำลายไปกว่า 5,700 หลังคาเรือน

นางโมนิกา และนายหลุยส์ โอคอน ลูกสาวและลูกเขยของผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมดังกล่าว เล่าว่า พวกตนมาเยี่ยมพ่อแม่และฉลองวันเกิดให้ทั้งสอง เมื่องานเลี้ยงในยามค่ำคืนจบลง ก็แยกย้ายเข้านอน นางโมนิกายืนยันว่าไม่ได้กลิ่นไหม้อะไร กระทั่งนายหลุยส์จะไปปิดไฟเข้านอน เห็นแสงคล้ายเพลิงลอดเข้ามาทางหน้าต่าง จึงได้รีบปลุกทุกคนในบ้านเตรียมอพยพหนี

สองสามีภรรยาที่ต้องพรากจากกัน

“มันเหมือนกันกับที่เห็นในหนังวันสิ้นโลกเลยครับ” นายหลุยส์กล่าว พร้อมเล่าต่อว่า ตนขับรถคันแรก ตามมาด้วยรถของนางโมนิกาและลูกสาว ส่วนคันที่สามเป็นของนายอาร์แมนโดและนางคาร์แมน แต่เมื่อขับมาสักระยะ รถของพ่อตาถูกต้นไม้ล้มขวางทาง จึงหันหัวรถกลับไปยังบ้านพัก พร้อมกับตัดสินใจซ่อนตัวในสระว่ายน้ำ โดยทั้งคู่โผล่ขึ้นมารับออกซิเจนเป็นระยะ

สระน้ำที่ทั้งสองลงไปหลบไฟ

แต่ด้วยควันไฟและความร้อนที่มากเกินไป ประกอบกับความเหนื่อล้าสำหรับคนสูงอายุ ทำให้นางคาร์แมนสิ้นลมหายใจในเวลาต่อมา เชื่อว่าสูดควันเข้าปอดเยอะเกินไป

รถยนต์ที่ทั้งสองขับกลับมายังบ้าน

หลังจากไฟได้ทุเลาลงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าไปช่วยนายอาร์แมนโดในสภาพตัวสั่นและส่งไปรักษาในโรงพยาบาล จนกระทั่งได้รับการปล่อยกลับไปพักพื้นที่บ้านในเมืองซาลินาส แคลิฟอร์เนีย แต่กระนั้นก็โมนิกาเผยว่าพ่อยังทำใจไม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน