เมื่อวันที่ 15 ต.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ยังมีชาวอิรักเกือบ 700,000 คนที่เคยมีถิ่นฐานจากเมืองโมซุล ตกอยู่ในสภาพไร้ที่อยู่อาศัยในขณะนี้ แม้ว่าเมืองดังกล่าวจะถูกทางกองทัพอิรักยึดคืนได้จากกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาแล้วก็ตาม
สภาผู้ลี้ภัยนอร์เวย์ กลุ่มด้านมนุษยชนที่ปฏิบัติการอยู่ในอิรักระบุว่า ยังมีชาวอิรักถึง 673,000 คนยังไร้บ้านที่อยู่อาศัย และไม่สามารถกลับไปยังพื้นที่บ้านของตนเองได้ และมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของชาวอิรักจำนวนดังกล่าวที่ทำเอกสารทางการหายระหว่างเกิดสงครามไม่ว่าจะเป็นสูติบัตร จนกระทั่งโฉนดที่ดิน ซึ่งหมายความว่าจะทำให้ชาวอิรักเหล่านี้ต้องพบกับความยากลำบากในการซ่อมแซมหรือสร้างบ้านใหม่บนพื้นที่ของตัวเอง
น.ส.ไฮดี ดีดริช ผู้อำนวยการของสภาผู้ลี้ภัยนอร์เวย์ กล่าวว่าแม้สงครามในโมซูลจะจบลงแล้ว แต่ยังมีผู้คนอีกเป็นร้อยเป็นพันที่หนีออกจากเมืองและยังได้รับความเจ็บปวด สิ้นหวังอยู่
“ผู้คนที่เราทำงานยังสูญเสียสิ่งที่จำเป็นพื้นฐานในชีวิตหลายๆอย่าง และพวกเขาก็ไม่รู้ด้วยจะกลับไปที่บ้านของพวกเขาได้หรือไม่” น.ส.ไฮดีกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้นานาชาติร่วมมือกันช่วยเหลือชาวอิรักที่ยังไร้บ้านเหล่านี้และขอให้รัฐบาลอิรักรับรองสิทธิของชาวโมซุลในเรื่องการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
เมืองโมซุลเคยถูกกลุ่มไอเอสเข้ายึดเมื่อปี 2557 และต้องกลายสมรภูมิรบระหว่างกองทัพอิรักและกลุ่มไอเอสจนทำให้บ้านเมืองพังพินาศจำนวนมาก