เมื่อ 15 ต.ค. เอพีรายงานเหตุก่อการร้ายใจกลางกรุงโมกาดิซู เมืองหลวงของประเทศโซมาเลีย ว่ายอดเสียชีวิตจากการวางระเบิดสองครั้งเพิ่มสูงถึง 231 รายแล้ว และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 275 คน รัฐบาลกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือกลุ่มอัลชาบับ เครือข่ายอัลไคด้า ที่ก่อเหตุต่อเนื่องมาเป็นระยะ แต่ครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดนับจากปี 2550

เหตุระเบิดรุนแรงลูกแรกมาจากคาร์บอมบ์ในรถบรรทุกหน้าโรงแรมซาฟารี เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ต.ค. ในเขตที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานของรัฐบาล โรงแรม และร้านอาหาร แรงระเบิดทำลายอาคารหลายหลัง และไฟไหม้ลามพาหนะที่จอดอยู่ จากนั้นตามมาด้วยเสียงดวลปืนตอบโต้กันสนั่นหวั่นไหว ระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกับกลุ่มติดอาวุธที่กระจายกำลังอยู่รอบและในโรงแรม

(AP Photo/Farah Abdi Warsameh)

จากนั้นอีก 2 ชั่วโมง เกิดระเบิดซ้ำในเขตเมดินา ทำลายพื้นที่ไปทั่วบริเวณ ต่อมาจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มพรวดจากหลักสิบในวันแรกมาทะลุ 200 ราย เนื่องจากหน่วยกู้ภัยพบร่างเหยื่อจำนวนมากใต้ซากอาคารหลายหลังที่ถล่มลงมา แม้แต่อาคารสถานทูตของกาตาร์ก็เสียหายร้ายแรงด้วย

ดร.โมฮาเหม็ด ยูซุฟ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมดินา กล่าวว่า เป็นเหตุสยองขวัญอย่างแท้จริงยิ่งกว่าครั้งใดๆ โรงพยาบาลเต็มไปด้วยศพและร่างผู้บาดเจ็บ

วันเดียวกัน ที่ประเทศอัฟกานิสถาน เกือบจะเกิดเหตุก่อการร้ายคล้ายกัน แต่โชคดีที่ตำรวจอัฟกันตรวจยึดรถบรรทุกที่ขนระเบิดซึ่งซุกซ่อนระเบิดใต้กล่องมะเขือเทศในกรุงคาบูลได้ทัน คนขับรถพยายามแหกด่านตำรวจ แต่ถูกตำรวจยิงสกัด ต่อมาพบระเบิด 2 ลูกหนักลูกละ 100 ก.ก. รวมถึงอุปกรณ์ระเบิดอื่นๆ

ระเบิดและสารประกอบระเบิดที่ตรวจยึดได้กลางกรุงคาบูล / AFP PHOTO / WAKIL KOHSAR

การสอบสวนพบว่าเป้าหมายคือสถานที่ทางทหาร หลังจากผู้ก่อการ้ายเคยใช้คาร์บอมบ์ถล่ม ย่านสถานทูตสังหารคนไป 150 รายและทำให้คนบาดเจ็บราว 400 คนเมื่อ 31 พ.ค.ปีนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน