วันที่ 28 ต.ค. บีบีซีและเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลเมียนมาเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวจากพื้นที่การเกษตรที่ชาวโรฮิงยาจำต้องทิ้งร้างไว้แล้ว หลังจากชาวโรฮิงยาอพยพหนีตายไปประเทศบังกลาเทศ จากเหตุความรุนแรงในรัฐยะไข่ ทางตอนเหนือของประเทศเมียนมา กว่า 600,000 คน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตอกย้ำถึงความกังวลถึงโอกาสที่ชาวโรฮิงยาจะได้กลับเมียนมาได้จริงหรือไม่

ก่อนหน้านี้ เดอะโกลบอลนิวไลต์ออฟเมียนมารายงานว่า รัฐบาลจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตในนาข้าวครอบคลุมพื้นที่ 71,000 เอเคอร์ หรือราว 180,000 ไร่ในเมืองหม่องดอว์ ชุมชนของโรฮิงยาอาศัยอยู่ และได้รับผลกระทบจากความรุนแรงมากที่สุด รัฐบาลสั่งระดมคนงานบรรทุกรถบัสจากหลายส่วนของประเทศเพื่อช่วยเก็บเกี่ยว

แฟ้มภาพ มือเผาบ้านโรฮิงยาเดินผ่านนาข้าว ใกล้เมืองหม่องดอว์ เมื่อ 7 ก.ย.2560 . AFP PHOTO / STR

“เมื่อถึงเวลา เราได้รับมอบหมายให้เก็บเกี่ยว ตากแห้งและเก็บสำรองเข้าคลัง” นายเต่ง ไว หัวหน้ากรมการเกษตรของเมืองหม่องดอว์กล่าว

ชุมชนที่ถูกเผาวอดกลางไร่นาในเมืองหม่องดอว์ เมื่อ 27 ก.ย. REUTERS/Soe Zeya Tun/File Photo

ก่อนหน้านี้ จากแรงกดดันจากนานาชาติทำให้เมียนมาเห็นพ้องที่จะนำผู้ลี้ภัยที่เข้าเกณฑ์คัดกรองที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีถิ่นที่อยู่อาศัยในรัฐยะไข่ กลับประเทศ แต่แผนยังไม่น่าเชื่อถือ เพราะยังมีปัญหาว่า ใครจะได้รับอนุญาตให้กลับ จะใช้ชีวิตในที่ที่ผู้คนรังเกียจชาวโรฮิงยาในระดับสูงได้อย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน