เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ศาลฎีกากรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา อ่านคำพิพากษายุบพรรคกู้ชาติ หรือซีเอ็นอาร์พี พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชา ส่งผลให้นักการเมืองของพรรค 118 คน ถูกตัดสิทธิการมีส่วนร่วมทางด้านการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี
พรรคกู้ชาติกัมพูชาถูกรัฐบาลของนายฮุน เซน กล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐอเมริกาและองค์กรสิทธิมนุษยชนสากลวางแผนเพื่อก่อให้เกิดการปฏิวัติภายในกัมพูชา
คำพิพากษาดังกล่าวเป็นไปตามความคาดหมายของคนส่วนมาก รวมถึงนายฮุน เซนที่ถึงกับพูดท้าพนันไว้ว่า ศาลจะยุบพรรคในสัดส่วน 1 ต่อ 100 พร้อมเสนอให้สมาชิกพรรคฝ่ายค้านเข้าร่วมพรรคตน ก่อนศาลอ่านคำพิพากษา
การอ่านคำพิพากษาของศาลครั้งนี้ รัฐบาลตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีหน่วยควบคุมฝูงชนถูกวางกำลังไว้นอกศาลจำนวนมากแม้ไม่มีผู้ชุมนุม คำตัดสินยุบพรรคซีเอ็นอาร์พี
คณะผู้พิพากษา 9 คน มีนายดิธ มันตี เป็นประธานองค์คณะ แม้ว่านายดิธเป็นสมาชิกพรรคประชาชนกัมพูชา หรือซีพีพี ของนายฮุนเซน
คดีดังกล่าวทำให้รัฐบาลชาติตะวันตก รวมถึงสหรัฐอเมริกา และบรรดาองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ มองว่าเป็นความพยายามกำจัดคู่แข่งก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้าของนายฮุน เซนที่อยู่ในอำนาจมายาวนานกว่า 32 ปี หลังพรรคคู่แข่งมีคะแนนนิยมสูงมากในการเลือกตั้งครั้งเมื่อปี 2556 แต่กลับถูกรัฐบาลฉวยชัยชนะไป
จากนั้นมารัฐบาลเริ่มเล่นงานฝ่ายค้าน เช่น จับกุมนายเขม โสกา หัวหน้าพรรคกู้ชาติที่ขึ้นมาแทนนายสม รังสี ในข้อหากบฏ ส่วนแกนนำพรรคคนอื่นๆ ต้องหนีออกนอกประเทศ หลังถูกข่มขู่คุกคามจนรู้สึกว่าชีวิตตกอยู่ในอันตราย
นอกจากนี้รัฐบาลนายฮุนเซนยังสั่งปิดสถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติหรือเอ็นดีไอ เอ็นจีโอของสหรัฐอเมริกา และบีบให้หนังสือพิมพ์กัมโบเดียเดลี่ปิดตัว ด้วยการเรียกภาษีจำนวนมหาศาล หรือราว 200 ล้านบาท