เมื่อ 9 ธ.ค. บีบีซีรายงานเรื่องราวของหญิงชาวจีนที่แต่งตัวเป็นตือโป๊ยก่าย ตัวละครในนวนิยายเรื่องไซอิ๋ว หรือ Journey to the West ซึ่งปกติแล้วเป็นตัวละครที่ตลกเรียกเสียงฮา แต่กรณีของนางอู๋ ชือ อายุ 58 ปี ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ภาคตะวันออก กลับเป็นเรื่องทุกข์ร้อนสะเทือนอารมณ์

คลิปภาพนางอู๋แต่งชุดตือโป๊ยก่าย หรือภาษาจีนกลางเรียกว่า จู อู้เหนิง ยืนอยู่ริมถนนซูโจวเพื่อให้คนมาถ่ายรูปและบริจาคเงิน สะพัดไปทั่วโลกโซเชียลของจีน ในแอพพลิเคชั่นรวมวิดีโอ เหมียวพ่าย (Miaopai) มีผู้เข้าชมกว่า 8 ล้านครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องราวเบื้องหลังว่า หญิงรายนี้พยายามหาเงินไปรักษาสามีและลูกชายที่ป่วยทางจิต

นางอู๋ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่า ลำพังการทำงานหาเงินด้วยการใช้แรงงานนั้นไม่พอสำหรับค่ารักษาทั้งสามีและลูกนั้นไม่เพียงพอ ดังนั้นวันเสาร์และวันอาทิตย์ตนต้องไปหาเงินเพิ่มด้วยการทำแบบนี้ อย่างน้อยก็ได้มาอีก 1,000 บาท ขณะที่ลูกชายอยู่ในโรงพยาบาล ตนได้เงินจากค่าประกันเดือนละ 14,700-19,000 บาท ตนเหนื่อยล้าและปวดใจ เพราะทุกลมหายใจก็อยากจะให้ลูกดีขึ้น

สำหรับลูกชายของนางอู๋มีอาการทางสภาพจิต เป็นโรคจิตเภทและสุขภาพไม่ค่อยดีตั้งแต่อายุ 11 ขวบ นางอู๋กล่าวว่า แต่ก่อนตนมีค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ตอนที่ลูกอาการยังไม่หนักมาก พาลูกไปทำงานด้วย แต่กลับทำให้ขายของไม่ได้ ยิ่งพอลูกถูกล้อ อาการก็ยิ่งหนักขึ้น จนต้องพาไปโรงพยาบาลมาแล้ว 11 แห่ง ในช่วงสิบปีมานี้ ตนรู้สึกว่าช่วยให้ลูกดีขึ้นไม่ได้เลย จึงต้องไปอยู่ประจำที่โรงพยาบาล และจุดเริ่มต้นที่ตนแต่งชุดตือโป๊ยก่าย ก็อยากให้ลูกมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคนี้

ด้านแม่ค้าที่ขายผลไม้อยู่ในสวนที่นางอู๋ยืนถ่ายรูปแลกเงินนั้น กล่าวว่า ชีวิตนางอู๋น่าสงสารมาก สามีเองก็ป่วยทางจิต ช่วยอะไรไม่ได้เลย นางอู๋ทำอะไรไม่ได้นอกจากพาไปสถานรับดูแล และต้องหาเงินไปให้โรงพยาบาลนั้น

เมื่อเรื่องราวนางอู๋เผยแพร่ออกไปในโซเชียลเว่ยป๋อ มีผู้เข้ามาเขียนแสดงความสงสารและเห็นใจจำนวนมาก และหลายคนอยากบริจาคเงินช่วย บางคนเขียนว่า “มีคนจนมากมายเหลือเกินในประเทศนี้” และคนหนึ่งเขียนว่า “นี่คือความรักของแม่ มันยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยายใดๆ”

++++++++++++

 

หมายเหตุ : ข้อมูลจากเว็บไซต์สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โรคจิตเภทคือ กลุ่มอาการของโรคจิต ที่มีความผิดปกติของความคิด มีลักษณะ
อาการแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ
กลุ่มลักษณะอาการทางบวกหมายถึง อาการที่มีเพิ่มมากกว่าคนปกติทั่วไป ได้แก่
– ประสาทหลอน เช่นได้ยินเสียงคนพูดคุย ได้ยินเสียงคนพูดตำหนิ พูดโต้ตอบเสียงนั้นเพียงคนเดียว
– อาการหลงผิด เช่นคิดว่ามีเทพวิญญาณอยู่ในร่างกาย คอยบอกให้ทำสิ่งต่างๆ
– ความคิดผิดปกติ เช่นพูดไม่เป็นเรื่องเป็นราว พูดไม่ต่อเนื่อง เปลี่ยนเรื่องพูดโดยไม่มีเหตุผล
– พฤติกรรมผิดปกติ เช่นอยู่ในท่าแปลกๆ หัวเราะหรือร้องไห้ สลับกันเป็นพักๆ

กลุ่มลักษณะอาการทางลบหมายถึง อาการที่ขาดหรือบกพร่องไปจากคนปกติทั่วๆไป ได้แก่
– สีหน้าอารมณ์เฉยเมย ชีวิตไม่มีจุดหมาย ไม่มีสัมพันธภาพกับใคร ไม่พูด ไม่มีอาการยินดียินร้าย

การรักษาโรคจิตเภท ผู้ป่วยควรต้องกินยาอย่างต่าเนื่อง ตามแพทย์สั่ง อาจต้องใช้เวลาหลายปี แต่ยาจะช่วยควบคุมอาการและทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กลับเข้าสู่สังคมได้ ดูแลตนเองและทำงานได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน