เอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. พันธมิตร 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เริ่มฝึกซ้อมทางทหารร่วมกันเพื่อไล่ล่าติดตามขีปนาวุธของเกาหลีเหนือรอบใหม่ เป็นเวลา 2 วัน นับเป็นการซ้อมรบร่วมครั้งที่ 6 นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2559 ในน่านน้ำใกล้คาบสมุทรเกาหลีและประเทศญี่ปุ่น และเกิดขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปฮวาซอง 15 ที่คิม จองอึนคุยโวว่าใช้ถล่มได้ทุกจุดในแผ่นดินอเมริกา
กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้เผยถึงปฏิบัติการซ้อมรบว่า เรือรบของแต่ละประเทศจะจำลองการแกะรอยและติดตามขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่ได้ระหว่างกัน โดยสหรัฐส่งเรือร่วมซ้อม 2 ลำ และจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ประเทศละ 1 ลำ ต่อเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ก่อนที่สหรัฐ เกาหลีใต้ ซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้พลเอกวาลเลอรี เกราสิมอฟ เสนาธิการทหารบกของรัสเซียออกโรงเตือนระหว่างพูดคุยกับนายอิตสึโนริ โอโนะเดระ รมว.กลาโหมญี่ปุ่นว่า อาจปลุกเร้าให้เกิดภาวะหวาดระแวงต่อกันไม่จบสิ้น และอาจบั่นทอนเสถียรภาพของภูมิภาคนี้ขึ้นไปอีก แต่รมว.กลาโหมญี่ปุ่นยืนกรานว่าเกาหลีเหนือเป็นฝ่ายปั่นป่วนภูมิภาค
วันเดียวกัน รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือ โดยเพิ่มกลุ่มบริษัทเกาหลีเหนืออีก 20 กลุ่มและบุคคลอีก 12 คน มีผลบังคับใช้วันที่ 11 ธ.ค. พร้อมระบุว่า รัฐบบาลหวังว่าจะกระตุ้นให้ประชาคมระหว่างประเทศทำในทำนองเดียวกันนี้
