เมื่อ 12 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า นายโคฟี อันนัน และบัน คีมุน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็นทั้งสองคน กล่าวเรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลกแสดงความกล้าหาญและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศทั่วโลกให้มากกว่าที่เป็นอยู่ พร้อมเตือนว่าโลกกำลังเข้าสู่ภาวะเสี่ยงสงครามนิวเคลียร์ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ที่มีนโยบายให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นผู้นำโลก
คำกล่าวนี้มีขึ้นในการประชุมแก้ไขสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสหรัฐเป็นเพียงชาติเดียวในโลกที่ไม่เข้าร่วมและไม่ได้เดินทางไปประชุมด้วย
นายอันนันกล่าวว่า ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีด้วยว่าหากผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ทุกคนบนโลกอาจต้องตกเป็นเหยื่อสงครามครั้งใหญ่
“พูดตรงๆ ก็คือ ตอนนี้โลกกำลังเละเทะ ในอดีตที่ผ่านมาหากโลกเผชิญวิกฤตก็จะมีเหล่าผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และเข้าใจว่าจะต้องทำงานร่วมกัน แต่ทุกวันนี้เหล่าผู้นำกำลังไปผิดทาง” อดีตเลขาฯยูเอ็นกล่าว
ขณะที่นายบันกล่าววิพากษ์วิจารณ์สหรัฐว่า ชาติที่ร่ำรวยที่สุดและมีอำนาจที่สุดถอนตัวจากข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่แม้แต่ประเทศอย่างซีเรียยังเข้าร่วม พวกเรากำลังเห็นปัญหาที่มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ ในโลก เพราะการขาดการมีจุดยืนร่วมกันและความมีวิสัยทัศน์ของผู้นำโลก
ขณะที่ประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสนั้นกล่าวเตือนสติประธานาธิบดีทรัมป์ว่าควรมีความรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่จะต้องร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“ผมขอโทษจริงๆ ถ้าฟังแล้วมันเจ็บหู แต่มันเป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวงมาก และผมหวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะเปลี่ยนใจในหลายเดือน หรือหลายปีข้างหน้า การตัดสินใจออกจากข้อตกลงฝ่ายเดียวนี่ผมว่าทำเกินไป” นายมาครงกล่าว