เมื่อวันที่ 23 ม.ค. วอชิงตันโพสต์รายงานว่า ด.ช.เอ็มมานูเอล ซายาส อายุ 14 ปี ผู้มีเนื้องอกขนาดใหญ่เท่าลูกบาสเก็ตบอลเต็มใบหน้า หนัก 4.5 ก.ก. เสียชีวิตแล้ว หลังเข้ารับการผ่าตัดที่สหรัฐอเมริกา แม้การผ่าตัดลุล่วงด้วยดี แต่จากนั้นกลับทรุดลงและเสียชีวิตในที่สุด
ก่อนหน้านี้นายโนเอล ซายาส พ่อของเด็กชาย พาลูกชายไปโรงพยาบาลหลายแห่ง แต่ไม่มีแพทย์รักษาให้ บอกเพียงให้รอดูอาการ กระทั่งมีหมอสอนศาสนาคนหนึ่งชื่อ เจย์นี เอสตราดา จากสหรัฐพบเด็กชายคนนี้โดยบังเอิญในประเทศคิวบา จึงติดต่อดร.โรเบิร์ต มาร์กซ์ หัวหน้าแผนกศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าขากรรไกรจากมหาวิทยาลัยไมอามี ในสหรัฐ ให้รับตัวเด็กไปรักษา โดยมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
เนื้องอกที่ด.ช.เอ็มมานูเอลเผชิญอยู่หนักกว่า 4.5 ก.ก. เริ่มโตขึ้นจดไปเบียดบังช่องลม สร้างความทรมานต้องใช้ปากหายใจ อีกทั้งกินอาหารได้อย่างลำบาก และเสี่ยงอาจคอหักได้
สำหรับดร.โรเบิร์ต มาร์ชเคยมีประสบการณ์ผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกหนักกว่า 7 ก.ก. ออกจากใบหน้าของสตรีชาวเฮติ เมื่อสิบปีก่อน ทั้งยังเคยผ่าตัดมาราธอนเป็นเวลา 14 ชั่วโมงในการนำซีสต์ออกจากใบหน้าของสาวชาวเวียดนาม ในปี 2551 ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม กรณีของเด็กชาย แม้ว่าการผ่าตัดจะได้ผลสำเร็จลุล่วง ตามที่มีข้อความของมิชชันนารีแจ้งข่าววันที่ 13 ม.ค. ว่า “อัพเดต โล่งแล้ว เอ็มมานูเอลปลอดภัย หลับสบาย พวกเขาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ในตอนเช้า อาการบวมลดลงแล้ว และแผลก็ไม่มีเลือดไหลแล้ว ทุกอย่างดูดี”
ต่อมาวันที่ 18 ม.ค. ข้อความเปลี่ยนไปมาก กลายเป็นความวิตกกังวลว่า “ดร.มาร์กซ์จะไม่ปลุกเขาในวันพรุ่งนี้อย่างที่เราหวัง ดูเหมือนว่าเอ็มมานูเอลต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกหลายวัน โปรดช่วยสวดภาวนาเพื่อเขาด้วย”
จากนั้นวันที่ 19 ม.ค. เด็กชายจึงจากโลกไปอย่างสงบ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่และทุกคนที่พยายามช่วยเด็กอย่างถึงที่สุด มิชชันนารีเอสตราดา ส่งข้อความว่า “เอ็มมานูเอลได้รับการเยียวยาอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เขามีใบหน้าที่สมบูรณ์สดใส เขาวิ่งและกระโดดได้ และมีความสุขอยู่บนสวรรค์แล้ว”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
หมอจะพยายามช่วย เด็กชายป่วยเนื้องอกยักษ์เต็มใบหน้า หากปล่อยอาจคอหักตายได้