เมื่อ 8 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า เครื่องบินของแนวร่วมกองทัพนานาชาติที่นำโดยประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพซีเรียที่แคว้นดีเอร์ อัซซอร์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย ในจำนวนนี้มีทั้งทหารในสังกัดกองทัพซีเรีย และสมาชิกกองกำลังประชาธิปไตยชาวเคิร์ด หรือเอสดีเอฟ ที่สนับสนุนโดยสหรัฐ 1 นาย บาดเจ็บ ถือเป็นหนึ่งในการโจมตีทางอากาศที่รุนแรงที่สุดในสงครามกลางเมืองซีเรีย ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ที่สหรัฐกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมี

อย่างไรก็ตาม สถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรีย ปฏิเสธว่า ผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐนั้นไม่ใช่ทหารในสังกัดกองทัพซีเรีย แต่ภารกิจทางทหารดังกล่าวถือเป็นการรุกรานอธิปไตยของซีเรียและสนับสนุนกลุ่มที่ทางการซีเรียขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้าย ทั้งยังก่อให้เกิดความสูญเสียต่อกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่นที่ต่อสู้สนับสนุนรัฐบาลซีเรีย

กองบัญชาการกลางสหรัฐ ระบุว่า ภารกิจโจมตีทางอากาศเปิดฉากในเวลากลางคืนและมีขึ้นเพื่อปัดป้องการโจมตีต่อพื้นที่ในควบคุมของเอสดีเอฟ ขณะที่เอสดีเอฟ ระบุว่า โดนฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลและกองทัพซีเรียโจมตีอย่างหนักทั้งการโจมตีทางอากาศ ปืนใหญ่ และรถถัง ระดมยิงเข้ามาบริเวณที่มั่นของเอสดีเอฟ ทำให้เอสดีเอฟยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ประมาณ 20-30 นัด แต่ไม่สามารถต้านทานได้จึงวิทยุขอกำลังสนับสนุนทางอากาศจากแนวร่วมกองทัพนานาชาติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน