เมื่อ 18 ก.พ. บีบีซีรายงานความคืบหน้าแรงกระเพื่อมทางสังคมหลังเหตุการณ์ที่นายนิโกลาส ครูซ ศิษย์เก่าวัย 19 ปี กราดยิงที่โรงเรียนมัธยมศึกษาในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนเสรีภาพการครอบครองอาวุธปืน กล่าวโจมตีสำนักงานสืบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ หลังทางเอฟบีไอออกมายอมรับว่าล้มเหลวในการดำเนินการป้องปรามเหตุทั้งที่เคยมีผู้โทรศัพท์แจ้งถึงพฤติกรรมของนายครูซ แต่เรียกเสียงวิจารณ์ต่อตัวนายทรัมป์ที่นำกรณีที่เกิดขึ้นไปโยงกับการสืบสวนข้อครหาคณะทำงานหาเสียงเลือกตั้งของนายทรัมป์ว่าร่วมมือกับทางการรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้ง โดยนายทรัมป์กล่าวหาว่า เอฟบีไอใช้ทรัพยากรพยายามพิสูจน์เรื่องที่ไม่เป็นความจริง และว่า เอฟบีไอควรกลับไปทำหน้าที่พื้นฐานของตัวเองให้ดี

ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “อย่างเศร้าอะ เอฟบีไอ พลาดได้ไง เบาะแสมือปืนเตรียมก่อเหตุออกเยอะขนาดนั้น รับไม่ได้อะ” และว่า “มัวแต่ไปทุ่มเทพิสูจน์ข้อกล่าวหาสมรู้ร่วมคิดคณะทำงานผมกับรัสเซียอยู่ได้ กลับไปทำงานพื้นฐานของตัวเองเถอะ พวกเราจะได้ภูมิใจ”

a shooting, Wednesday, Feb. 14, 2018. (WPLG-TV via AP)

เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล (WPLG-TV via AP)

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้นำสหรัฐเกิดขึ้นหลังบรรดาเด็กนักเรียนผู้รอดชีวิตและครอบครัวของเหยื่อในเหตุการณ์ชุมนุมปราศรัยเรียกร้องให้รัฐฟลอริดาออกกฎหมายควบคุมเสรีภาพการครอบครองอาวุธปืนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความเข้มงวดและแก้ไขปัญหาการกราดยิงในสถานศึกษา ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีเพียงในสหรัฐที่เดียวบนโลก พร้อมโจมตีบรรดานักการเมืองในรัฐสภาคองเกรสที่ยังนิ่งเฉยว่า “น่าไม่อาย” เพราะยังไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหา

นอกจากนี้ยังกล่าวหานายทรัมป์ว่าเคยได้เงินสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งจากสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ หรือเอ็นอาร์เอ จำนวน 11.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 356 ล้านบาท และอีก 19.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 616 ล้านบาท เพื่อต่อต้านนางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต ซึ่งมีนโยบายทบทวนกฎหมายเสรีภาพครอบครองอาวุธปืน และกำลังเป็นประเด็นถกเถียงที่แหลมคมอย่างมากในอเมริกา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน