เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เว็บไซต์ วอชิงตันโพสต์ รายงานคดี “บ้านสยอง” กรณีล่าสุดในสหรัฐอเมริกา ครั้งนี้เกิดขึ้นในรัฐแอริโซนา เมื่อตำรวจรุดตรวจพบสามีภรรยาขังลูกบุญธรรม 4 คน ไว้ในห้องนอน โดยไม่ให้กินข้าวและขับถ่ายแต่อย่างใด

ตำรวจเขตพีมา ตรวจพบบ้านสยองหลังดังกล่าวริมถนนนอร์ธ โฟลวิง เวลส์ และจับกุมนายเบนีโต กูเตร์เรซ อายุ 69 ปี และนางแครอล กูเตร์เรซ อายุ 64 ปี สามีภรรยา หลังจากเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ลูกชายคนหนึ่งหนีออกมาจากหน้าต่างห้องนอนได้ และเดินทางไปร้านค้าแห่งหนึ่ง ในเมืองทักสัน และขอให้พนักงานเสมียนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ โดยเด็กชายคนดังกล่าวอยู่ในสภาพกระเซอะกระเซิง

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ลูกบุญธรรมทั้ง 4 คน มีอายุตั้งแต่ 6-12 ปี ถูกขังไว้ในห้องนอนแยกกันวันละ 12 ชม. ในสภาพมืดทึบ โดยไม่ให้กินอาหาร ดื่มน้ำ รวมทั้งเข้าห้องน้ำ ในจำนวนนี้ มีอยู่ 1 คน ที่มีถังน้ำไว้ใช้สำหรับขับถ่าย แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เด็กทั้งหมดถูกขังอยู่ในบ้านนานเท่าไรแล้ว

บ้านหลังที่เกิดเหตุ

รายงานระบุว่า นายเบนีโตและนางแครอลถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดเด็ก 3 กระทง และถูกส่งตัวไปคุมขังในที่ศูนย์กักขังในเขตพีมา ส่วนเด็กทั้ง 4 คน มีเจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองความปลอดภัยเด็กแห่งรัฐแอริโซนานำตัวออกจากไปบ้านไปโดยไม่ได้ระบุว่าไปที่ไหนกันแน่

ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า นายเบนีโตและนางแครอลเคยมีรายชื่อเฝ้าระวังการล่วงละเมิดเด็กจากกรมคุ้มครองความปลอดภัยเด็กหรือไม่ และทั้งคู่ผ่านกระบวนการคัดกรองสำหรับการเป็นพ่อแม่บุตรธรรมอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่

นายเดวิด อัลเลน เทอร์พิน และนางหลุยส์ แอนนา เทอร์พิน

สำหรับคดีบ้านสยองในรัฐแอริโซนาเกิดขึ้นเพียง 1 เดือน นับตั้งแต่กรณีนายเดวิด อัลเลน เทอร์พิน อายุ 57 ปี และนางหลุยส์ แอนนา เทอร์พิน อายุ 49 ปี สามีภรรยา ล่ามโซ่ขังเยาวชน 13 ชีวิต ในสภาพสกปรกเหม็น-ให้อยู่อดอยาก ในเมืองแพร์ริส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยเรื่องดังกล่าวได้รับการตีเผยไปทั่วโลก หลังจากมี สาววัย 17 ในสภาพซูบผอมเข้ามาแจ้งความต่อตำรวจ

โดยเหยื่อมีอายุตั้งแต่ 2 ขวบ ถึง 29 ปี แต่ละคนมีภาวะทุพโภชนาการ เนื่องจากถูกบังคับให้บ้านและไม่ได้ไปโรงเรียน แต่พ่อแม่จะสอนหนังสือที่บ้านแทน อย่างไรก็ตาม เด็กทั้ง 13 คน ถูกบังคับไม่ให้นอนตอนกลางคืน และเข้านอนได้ตอนตี 4-5 ทุกวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน