ร้านซูชิไม่พอใจ โพสต์ประจาน หลังลูกค้ารีวิว 1 ดาว โดนเรียกเงิน ค่าวาซาบิเพิ่ม
ร้านซูชิไม่พอใจ โพสต์ประจาน หลังลูกค้ารีวิว 1 ดาว โดนเรียกเงิน ค่าวาซาบิเพิ่ม ร้านไม่แจ้งก่อน สุดท้ายต่างฝ่ายต่างฟ้องร้อง
เรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์ หลังคู่รักคู่หนึ่งได้ไปทานร้านซูชิแห่งหนึ่ง ในไต้หวัน แต่หลังจากเช็กบิลแล้วเจอทางร้านเรียกเก็บค่าวาซาบิเพิ่ม 300 บาท โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าจึงโวยวายและโพสต์รีวิวให้ 1 ดาว ทางร้านไม่พอใจโพสต์คลิปประจานหน้าเพจ จนเกิดการฟ้องร้องทั้งสองฝ่าย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อคู่รักคู่หนึ่งได้พาแม่สามีไปทานร้านซูชิแห่งหนึ่งในเมืองเจียอี้ ด้านแม่สามีได้ขอวาซาบิเพิ่ม เพราะเห็นว่ารสชาติอร่อย ซึ่งทางเชฟแจ้งว่า วาซาบิของที่ร้านเป็นแบบบดสด ไม่เหมือนร้านอื่นจึงจำเป็นต้องสั่งแยกต่างหากจากเมนูหลัก ลูกค้าก็สั่งไปทั้งหมด 2 ที่

ภาพประกอบ
แต่หลังจากเช็กบิล กลับพบว่า ทางร้านคิดเงินค่าวาซาบิที่สั่งเพิ่มในราคา 300 ดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 308 บาท เธอจึงเถียงกับพนักงานว่า “คิดราคาวาซาบิเพิ่มได้นะ แต่ควรแจ้งก่อนว่าเท่าไหร่” ในที่สุดก็จ่ายเงินให้ทางร้านอย่างไม่เต็มใจ
จากนั้นลูกค้าได้โพสต์รีวิวให้ทางร้านเพียง 1 ดาวบน Google Reviews พร้อมแจงเหตุผลว่า ราคาของวาซาบิที่เพิ่มมา ทางร้านไม่ได้แจ้งก่อนว่าต้องจ่ายเพิ่ม ถ้ารู้ว่าวาซาบิของคุณมันพิเศษไม่เหมือนกับร้านอื่น
ทางร้านควรแจ้งให้ชัดเจนว่า หากลูกค้าต้องการวาซาบิเพิ่มจะต้องจ่ายเงิน ไม่ใช่บริการเช่นนี้ ทางร้านก็ไม่สามารถมาเถียงกับลูกค้าได้

ภาพประกอบ
ภายหลังทางร้านได้เผยแพร่ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ผ่านเฟซบุ๊กและโพสต์โดยเปิดให้เห็นใบหน้าและบทสนทนาของลูกค้าทั้ง 3 คนในวันนั้นอย่างชัดเจน
พร้อมข้อความอธิบายว่า “ร้านเราเปิดให้บริการมา 9 ปี เพิ่งเคยเจอคนสั่งวาซาบิสดแล้วไม่อยากจ่ายเงิน ทั้งที่ซาซิมิและซูชิของทางร้านจะเสิร์ฟพร้อมวาซาบิธรรมดาให้ฟรี แต่ใครๆ ก็รู้ หากอยากทานวาซาบิแบบสดก็ควรจ่ายเงิน”
อย่างไรก็ตาม หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกโซเชียล ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากบนโลกออนไลน์ ด้านลูกค้าที่ถูกโพสต์ประจานไม่พอใจและกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากโพสต์คลิปโดยเปิดเผยชื่อและใบหน้า เธอจึงตัดสินใจดำเนินการฟ้องร้องในข้อหาเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค

ภาพประกอบ
ขณะเดียวกันทางร้านซูชิก็ไม่ยอม ฟ้องกลับลูกค้าในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องไปเจรจากันต่อในชั้นศาล
อย่างไรก็ตามจากข้อพิพาทดังกล่าวนี้ ทางเจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค เมืองเจียอี้ ออกความเห็นโดยระบุว่า ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ร้านค้าควรให้ข้อมูลราคาอย่างชัดเจนและครบถ้วนแก่ผู้บริโภค หากร้านค้าไม่มีการแจ้งราคาให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจนก่อนที่จะเสิร์ฟ ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะไม่ชำระเงินในส่วนที่คิดเพิ่มได้