นักวิทย์เผย พืชชนิดใดควรปลูกมากสุด ไม่อดตาย หากเกิดหายนะ ทำลายล้างโลก ไม่ทันตั้งตัว
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานผลการศึกษาใหม่ที่บ่งชี้ว่า พืชชนิดใดควรปลูกมากสุด เพื่อให้มนุษย์ดำรงอยู่ได้ หากเกิดภัยพิบัติ ทำลายล้างโลกกะทันหัน
ส่งผลให้ผู้คนนับล้านอาจต้องอดอาหารตาย แต่ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ได้คำนวณแล้วว่าจะต้องปลูกพืชชนิดใด เพื่อให้ดำรงอยู่ได้ต่อไปหากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายดังกล่าว
ตามการศึกษาใหม่ ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS One เมื่อวันพุธ (7 พฤษภาคม) พบว่า การปลูกผักโขม ชูการ์บีต ข้าวสาลี และแครอทในเขตเมืองและบริเวณชานเมือง ซึ่งอาจช่วยเลี้ยงประชากรในเมืองในโลกหลังหายนะ อย่าง สงครามนิวเคลียร์ โรคระบาดร้ายแรง หรือพายุสุริยะได้

ภาพประกอบ
การศึกษาวิจัยนี้ได้พิจารณาสถานการณ์สองสถานการณ์หากเกิดภัยพิบัติต่างๆ สิ่งที่ควรปลูกในและรอบเมืองภายใต้สภาพภูมิอากาศปกติ และสิ่งที่ควรปลูกในกรณีที่เกิดฤดูหนาวนิวเคลียร์
พืชที่เหมาะแก่การปลูกในเมืองที่มีอากาศอบอุ่นภายใต้สภาวะปกติ คือ พืชตระกูลถั่ว โดยถั่วเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมทางการเกษตรในเมือง
แต่ถั่วจะไม่ทนต่อน้ำค้างแข็ง หากเกิดฤดูหนาวนิวเคลียร์ ซึ่งอาจเกิดจากสงครามนิวเคลียร์การระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่หรือการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยครั้งใหญ่ แสงแดดจะถูกบดบัง สังเคราะห์แสงได้น้อยลง

ภาพประกอบ
ในสถานการณ์เช่นนั้น นักวิจัยพบว่า การผสมผสานผักโขมกับชูการ์บีตที่มีความทนทานจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า นอกจากนี้ จากการศึกษาพบว่า มันฝรั่งเป็นพืชที่เหมาะสำหรับสภาพภูมิอากาศปกติในพื้นที่นอกเมือง
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกิดฤดูหนาวนิวเคลียร์ การปลูกข้าวสาลี 97% และแคร์รอต 3% ถือเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากสามารถทนต่ออุณหภูมิที่เย็นกว่าได้ดีกว่า
ทั้งนี้ งานวิจัยดังกล่าวไม่ได้จะบอกว่า ผู้คนจะต้องกินถั่วตลอดไปหากเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ แต่แนะนำการปลูกพืชที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่จะลดปริมาณพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการเลี้ยงประชากรที่เหลือรอดให้เพียงพอ