แหล่ม! เปิดใจสองสาวแอร์โฮสเตส ผุดไอเดียตัดชุดว่ายน้ำลายผ้าไหมขาย

กระแสผ้าไทยยังคงฮอตฮิตติดลมบน ดารา-บิวตี้บล้อกเกอร์พากันประยุกต์แฟชั่นผ้าไทยให้กิ๊บเก๋ทันสมัยแชะโชว์ลงโซเชียล ทว่าไอเดียเริ่ดยิ่งกว่า เห็นจะเป็น ‘ชุดว่ายน้ำลายผ้าไหม’ นอกจากเป็นที่ฮือฮาแล้ว ยังขายดิบขายดี เวทีขาอ่อนยังให้นางงามใส่

ชุดว่ายน้ำลายผ้าไหม ด้วยความแปลก ภัสซาบีชแวร์ (Passa beachwear) นำลายผ้าไหมผ้ามัดหมี่มาตัดเย็บเป็นชุดว่ายน้ำดีไซน์แซ่บซี้ด มีทั้งวันพีซและทูพีซ แถมใส่รายละเอียดเปรี้ยวเข็ดฟัน เช่น แทนที่จะปิดก้น กลับคว้านสูงโชว์แก้มก้น ทว่าออกมาลงตัว ใส่แล้วสวยปังทุกคน จึงเกิดกระแสการบอกต่อ ผ่านการรีวิวของลูกค้า แชร์กระจายในโลกโซเชียล

ภัสซาบีชแวร์ เพิ่งปล่อยชุดว่ายน้ำลายผ้าไหมออกขายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ปรากฎว่าขายดีมาก ต้องโพสต์ SOLD OUT บางแบบบางไซส์หมดเกลี้ยง จนต้องเตรียมออกคอลเลกชันใหม่ ขณะเดียวกันผู้จัดกองประกวดมิสแกรนด์ กรุงเทพฯ 2562 ปิ๊งถึงขนาดติดต่อขอนำชุดวันพีซไปให้นางงามเข้ารอบ 15 คนสุดท้ายใส่บนเวทีที่กำลังจะจัดขึ้นเร็วๆ นี้

ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันรวดเร็วนี้ เป็นสองสาวแอร์โฮสเตสเพื้อนซี้ วัยเพียง 29 ปี แก้ม-ภัสซา จีระนันทกิจ สาวเปรี้ยวผู้หลงรักผ้าไทยเป็นชีวิตจิตใจ เธอเลือกลาออกจากอาชีพนางฟ้าติดปีก เพื่อทำงานค้าขายเต็มตัว อีกคนเป็นสาวยิ้มหวาน ก้อย- กิตติภรณ์ ดำรงอัครนิธิ ผิวขาวรูปร่างดี นิยมสะสมชุดว่ายน้ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ณ ร้านเช่าชุดราตรีที่นั่งสัมภาษณ์ มีร้านให้เช่าชุดราตรีด้วยเหรอคะ

แก้ม: “เริ่มช่วงเป็นแอร์โฮสเตสค่ะ ตอนแรกเปิดร้านเช่าชุดราตรีทั่วๆ ไป ทีนี้ถ้าเราทำร้านเช่าชุดด้วยและบินด้วย ไม่มีคนดูร้าน ก็เลยต้องออกมาดูร้าน

ชุดราตรีของแก้มตัดขึ้นมาเพื่อให้เช่า แก้มมีช่างประจำ และแก้มเป็นคนชอบผ้าไหม ตอนเด็กๆ ชอบเอาผ้าไหมของแม่มาเล่น ทีนี้ก็ให้ช่างที่ร้านตัดชุดให้ตัวเองใส่ ชุดง่ายๆ ใส่มาทำงาน ตัดเป็นกางเกง แล้วคนที่ติดตามในเฟซบุ๊ค ก็สนใจชอบชุดของเรา อยากใส่บ้าง ก็มาจ้างตัด แก้มก็เลยคิดทำเป็นแบรนด์ชุดผ้าไหมขาย แตกไลน์เป็นแบรนด์ชุดผ้าไหม ready to wear ไซส์ S M L เป็นผ้าไหมแท้ เรารู้จักคนทอผ้า เราก็สั่งทอทีเดียวเป็นล็อตเยอะๆ

เวลาแก้มไปรับผ้าที่ชุมชนทอผ้าในต่างจังหวัด เจอแต่คุณยายคุณป้าหน้าเดิมๆ อายุ 60-70 ปี รับงานช่วยกันในชุมชน ไม่มีรุ่นลูกหลานสานต่อ ลูกหลานเข้ากรุงเทพฯ ทำงานหมด แก้มจึงรู้สึกว่าถ้าไม่มีคนรุ่นนี้แล้ว ก็ไม่มีคนทอแล้วสิ

ความต้องการของแก้มคือ อยากอุดหนุนให้ผ้าไหมมัดหมี่ยังคงอยู่ต่อไป ฟังดูโลกสวย แต่มันจริงค่ะ”

นึกอย่างไร แตกไลน์ชุดว่ายน้ำอีก

แก้ม: “ชุดของแก้มแนววัยรุ่นทันสมัย ไม่ไช่แนวผู้ใหญ่ใส่ แก้มออกแบบเองหมดทุกอย่าง ทั้งชุดราตรีและชุดผ้าไหมใส่ไปทำงาน ใส่ไปเที่ยวไปช้อปปิ้ง ซึ่งคนในกลุ่มตลาดเราใส่ชุดว่ายน้ำด้วย เลยอยากแตกแบรนด์ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ทำชุดว่ายน้ำลายผ้าไหมด้วยดีกว่า

ทีนี้งานเริ่มเยอะเกินแล้ว ทำคนเดียวไม่ไหวแล้ว เพราะทำสองอย่างแล้ว ก็เลยชวนก้อยมาช่วย”

ก้อย: “ก้อยร่วมหุ้นแค่ชุดว่ายน้ำ เราสองคนชอบไปเที่ยวทะเล ชอบไปด้วยกัน และชอบชุดว่ายน้ำ”

แก้ม: “ปกติแก้มกับก้อยซื้อชุดว่ายน้ำเยอะมาก คนหนึ่งมี 30-40 ชุด จะไม่ได้ใส่เล่นน้ำ แต่ใส่ถ่ายรูป และเวลาไปเที่ยวแก้มจะชอบเที่ยวทะเลอย่างเดียว ไม่ชอบเที่ยวภูเขา จะไม่ไปที่อื่นเลยที่ไม่ใช่ทะเล ชุดว่ายน้ำเป็นสิ่งที่เราทั้งสองชอบตรงกัน”

ก้อย: “ทุกขั้นตอน เราจะช่วยกันแชร์ความคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแพทเทิร์น เรื่องลายชุด เรื่องลายผ้า เรื่องสีของผ้า เราคุยกันตลอดแบบนี้ดีไหม แบบนี้ไม่ดีลองปรับเป็นแบบนั้นดีไหม ชุดนี้เอาอย่างนี้ขึ้นไหม”

ทำไมชุดว่ายน้ำต้องเป็นลายผ้าไหม

แก้ม: “ตอนแรกเราอยากทำชุดว่ายน้ำ ทีนี้จะทำยังไงไม่เหมือนใคร แก้มชอบลายผ้าไหม ก็เลยเสนอไอเดียว่าลองทำชุดว่ายน้ำลายผ้าไหมกันไหม เพราะว่ายังไม่เห็นใครทำเลย ก็เลยคิดว่าน่าเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ลอง เป็นแบรนด์แรกที่ทำ ยังไม่เคยเห็นใครทำชุดว่ายน้ำลายผ้าไหม

ผ้าไหมจริงๆ ลงน้ำไม่ได้อยู่แล้ว มันไม่ใช่ผ้าที่จะไปโดนน้ำเค็ม น้ำคลอรีน มันก็เลยไม่ใช่ผ้าที่เหมาะแก่การโดนน้ำ เพราะฉะนั้นทำได้แค่ลายผ้า

ทีนี้หลังจากที่คิดกันว่าอยากทำชุดว่ายน้ำลายผ้าไหม ก็พยายามหา supplier เพราะเราไม่รู้จักใครเลยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับชุดว่ายน้ำ แล้วบังเอิญเจอพี่ที่เป็นเจ้าของโรงงานทำชุดว่ายน้ำ ที่ร้านกาแฟที่ไปนั่งกินทุกวัน ก็เลยสรุปทำกับเขา เพราะโรงงานของเขาทำครบวงจร มีคนพิมพ์ผ้าให้ด้วย มีช่างตัดเย็บด้วย”

พิมพ์ลายผ้าไหมไม่ใช่เรื่องเล็กเลย มีความลำบากอย่างไร

แก้ม: “เหนื่อยตรงที่เราต้องหาลาย และตอนแรกคิดว่าง่าย เอาผ้าไปสแกนลาย แล้วพิมพ์ได้เลย”

ก้อย: “แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เลย มันต้องมีความละเอียดอ่อนทางด้าน‘สี’ ตอนแรกที่สแกนและพิมพ์ออกมา สีเพี้ยน เราต้องมานั่งปรับสีทีละจุด เพื่อให้เหมือนลายผ้าจริงมากที่สุด”

แก้ม: “และก็‘ลาย’ ไม่สามารถสแกนและพิมพ์ได้ มันจะเบลอ ไม่คมชัด เราต้องจ้างกราฟฟิกดีไซเนอร์แยกต่างหาก เพื่อดูลายโดยเฉพาะ และวาดลงในคอมพ์ เลือกสีเป็นจุดๆ ไป แล้วค่อยไปพิมพ์ แบบนี้จะชัดขึ้น”

ในคอกเลกชันแรกนี้มีกี่ลาย กี่แบบ

ก้อย: “มีทั้งหมด 5 ลาย ส่วนดีไซน์ เราพยายามเลือกแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ มีทั้งเอวสูง เอวต่ำ เกาะอก บราสามเหลี่ยม บราทวิช ฯลฯ วันพีซส่วนมากใส่ได้กับทุกรูปร่าง ส่วนคนที่ค่อนข้างมีหน้าท้อง แนะนำใส่แบบเอวสูง”

แก้ม: “แก้มกับก้อยมีหุ่นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ก้อยจะเป็นตัวยาวคอยาวและเอวเล็กๆ จะใส่วันพีซเอวสูงสวย แต่แก้มคอสั้น และตัวค่อนข้างหนา แก้มจะใส่เอวสูงไม่ได้เลย แก้มจะใส่แค่เอวต่ำ และบิกินี่สามเหลี่ยม เพราะชอบอาบแดดด้วย ถ้าใส่ชุดที่ปิดเยอะๆ ตัวจะเป็นรอยๆ เราก็จะเอาหุ่นเราทั้งสองเป็นตัวตั้ง และสไตล์ชุดจะไม่เรียบร้อยเลย อย่างเช่น วันพีซปกติชอบปิดก้น แต่แก้มกับก้อยจะให้ช่างตัดคว้านขึ้นไป ให้เป็นไฮคัทสูงๆ และกางเกงเอวต่ำปกติข้างหลังจะปิดก้นธรรมดา แต่แก้มจะให้คว้าน ก้นห้อยออกมา มันเป็นสไตล์ของเราค่ะ”

ใส่ได้จริง สีลายไม่ตกใช่ไหมคะ

ก้อย: “ใส่ได้จริงค่ะ สีไม่ตก เราใช้ผ้าที่ทำชุดว่ายน้ำจริงๆ มาตัดเย็บ”

แก้ม: “ผ้าที่โรงงานใช้เป็นผ้าเกรดเอ เนื้อหนา และยืดหยุ่น ไม่ใช่ยืดแล้วย้วย แต่ยืดหยุ่นแบบหนึดๆ และปกติชุดว่ายน้ำในราคาแบบนี้จะซ้อนผ้าซับในที่เป็นสีเนื้อ ซึ่งแก้มว่าไม่ค่อยหนา แก้มเลยให้ใช้ผ้าแบบเดียวกันสองอันประกบกัน ไม่ได้ใช้ผ้าซับในสีเนื้อ”

กระบวนการขั้นตอนใดยาทกี่สุด

ก้อย: “เรื่องลายผ้าค่ะ เพราะเราต้องตรวจแล้วตรวจอีก ให้ผ้าออกมาเหมือนจริง สวยเป๊ะที่สุด คือ ต้องใช้ระยะเวลา ทางโรงงานส่งผ้ามา เราต้องแก้ไป ซึ่งขั้นตอนกินเวลา 2-3 เดือน เราอยากให้ผ้าออกมาสวยที่สุด เหมือนลายผ้าต้นแบบมากที่สุด สีคมชัดมากที่สุด”

เนื่องจากเป็นที่พูดถึงกันมาก ใช้กลยุทธ์การตลาดอย่างไร

แก้ม: “แค่ลงไอจีกับเฟซบุ๊คค่ะ แต่แก้มพยายามศึกษาในเน็ตว่าต้องโพสต์ช่วงไหน ประมาณหลังบ่ายสองค่ะ เพราะราว 4-5 โมงใกล้เลิกงาน คนเริ่มไม่มีสมาธิทำงานแล้ว จะเริ่มเล่นมือถือ ไปได้เรื่อยๆ ถึง 3 ทุ่มค่ะ ขณะกลับบ้านรถติดเล่นมือถือในรถ”

ก้อย: “เราไม่มีพื้นฐานมาร์เก็ตติ้งอะไรเลย อย่างที่รู้กันอยู่ พวกเราเป็นแอร์ฯ แค่ลงรูปรีวิว เหมือนกันคนเห็นคนชอบ เขาก็ไปแชร์ แท็กอะไรของเขากันเอง จนมีสื่อติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ คิดว่าน่าจะเป็นของแปลกใหม่ที่ยังไม่มีใครทำ ก็เลยได้รับความสนใจ และชุดก็สวยด้วย”

กระแสตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างไรบ้าง

แก้ม: “ลูกค้าที่ได้สินค้าไปทุกคน กระแสกลับมาส่วนมากจะบอกชุดสวยมากค่ะ ใส่แล้วสวยมาก แก้มก็เลยคิดว่าด้วยความที่แก้มกับก้อยตั้งใจทำในทุกกระบวนการ เราไม่ได้ตัดต้นทุน อย่าง เรื่องซับใน เรายอมเพิ่มเงินเพื่อให้ได้คุณภาพดี เมื่อลูกค้าได้ของคุณภาพดี และเวลาเราคุยกับลูกค้าก็บริการเหมือนเราเป็นแอร์ฯ บริการในแบบที่เราถูกฝึกมา ลูกค้าก็ประทับใจ”

ก้อย: “ฟีดแบคลูกค้าดีมากเลยค่ะ ที่ได้รับสินค้าไป ชมว่าเนื้อผ้าดีมาก แบบสวย คุณภาพดี และลูกค้าจะส่งรูปรีวิวมาให้เราเอง มีลูกค้าเอาไปใส่และเอาไปเต้นโพลแดนซ์ เป็นข้อพิสูจน์ว่าชุดว่ายน้ำเราสามารถเก็บรูปร่างได้ ไม่มีอะไรหลุดรอดออกมาแน่นอน”

กองประกวดมิสแกรนด์ กรุงเทพฯ ติอต่อเอาชุดว่ายน้ำคอลเลกชันนี้ไปให้นางงามใส่ขึ้นเวทีด้วยหรือ

แก้ม: ค่ะ คุณทับทิม (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ดาราสาวซึ่งเป็นผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์ กรุงเทพฯ 2562) ติดตามแบรนด์ชุดผ้าไหมมาก่อน พอเห็นเรามีชุดว่ายน้ำ เธอชอบรุ่นวันพีซ

จริงๆ มีอีกกองประกวดฯ ติดต่อเข้ามาเหมือนกัน แต่เรามีไม่กี่แบบ จึงไม่อยากให้ซ้ำกัน”

กำลังเตรียมออกคอลเลกชันใหม่ จะยังคงแนวลายผ้าไหมใช่ไหม

แก้ม: “ค่ะ อยากเน้นลายไทย ไม่อยากทำแค่ 2-3 คอลเลกชันก็หายไป เรามีความสุขกับการเลือกผ้าไหมมาวางลาย ชุดว่ายน้ำปกติที่มีลายกราฟฟิกบนผ้าหนึ่งผืน เขาจะพิมพ์ลายไปเลย และสามารถตัดได้ทุกช่วงของผ้า แต่ของเราอย่างสีชมพู เราจะใช้ลายสีขาวคาดเอว ดังนั้นลายที่พิมพ์มาจะใช้ได้แค่ช่วงล่าง ช่วงบนกลายเป็นผ้าเหลือทิ้ง ไม่ได้ใช้ มันก็เปลืองด้วย ยากกับโรงงานด้วย เพราะไม่เคยมีแบบบอกโรงงานว่าใช้ได้แค่ช่วง 20 ซม.ล่างของผืนผ้านะ ข้างบนห้ามใช้

กว่าเราจะปรับตัวเข้ากับช่างของโรงงานได้ ให้เขาชินในสไตล์เรา ก็ผ่านมาแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราสามารถทำไปได้เรื่อยๆ มันก็ดีตรงที่ว่าเราก็มีคนที่พร้อมแล้ว รู้งานของเราแล้วว่าต้องทำงานแนวนี้นะ

อีกอย่าง คุยกับก้อยแล้วว่า ชื่อแบรนด์ภัสซาบีชแวร์ ไม่ได้ทำแค่ชุดว่ายน้ำ แต่ว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการไปทะเลการไปว่ายน้ำจะมีหมด อย่าง หมวก เสื้อคลุม กระเป๋า คิดทำอยู่ค่ะ”

วางเป้าหมายกับแบรนด์นี้ถึงไหน

ก้อย: “จริงๆ ก็อยากตั้งเป้าหมายไว้สูงๆ เลย ได้ตีตลาดต่างประเทศด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าชาวต่างชาติจะเข้าใจไหมว่านี้คือ ลายผ้าไหมที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย เขาอาจมองแค่ว่านี้คือ ลายกราฟฟิกที่สวย เพราะลายผ้าไหมลายไทย ยังไม่เป็นเอกลักษณ์สำหรับชาวต่างชาติมากถึงขนาดที่เขาจะรู้สึก ว้าว ลายผ้าไหมเหรอ ต้องซื้อ”

เห็นได้ว่า นอกจากสองสาวมีความคิดสร้างสรรค์สร้างจุดขาย จนกลายเป็นจุดแข็งที่แตกต่างแล้ว ยังมีความพิถีพิถันใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ขยันศึกษาหาเทคนิคกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ และที่สำคัญ ใส่ใจเข้าถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก