เลิกถุงพลาสติก ไปได้สวย-แต่อย่าสุดโต่ง

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

เริ่มต้นวันปีใหม่ เป็นวันเริ่มต้นโครงการใหม่ของประเทศไทยเรา ในการเข้าสู่สังคมไร้ขยะพลาสติก เลิกใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วหรือถุงก๊อบแก๊บ และถุงพลาสติก ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง หลอดพลาสติก แก้วพลาสติก

เป็นผลงานสำคัญของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

หลังจากใช้เวลารณรงค์มาระยะหนึ่ง รวมทั้งจับมือร่วมกับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท ทั่วประเทศ

เมื่อถึงวันดีเดย์ ก็เริ่มงดใช้ถุงพลาสติกใส่สินค้าให้ลูกค้า ขณะที่ชาวบ้านก็ต้องพกถุงผ้ามาเอง

ดูเป็นการเริ่มต้นที่ได้ผลดี อาจยังไม่สมบูรณ์แบบ เพราะคนไทยยังเคยชินแบบเดิมๆ แต่จะได้ผลมากขึ้นเรื่อยๆ!

แต่ก็ยังมีคนสงสัยถึงถุงพลาสติกแบบอื่น ถุงร้อน ถุงใส่แกง ใส่อาหาร ใส่ก๋วยเตี๋ยว พลาสติกหุ้มอาหาร

ส่วนนี้ยังใช้ได้อยู่ จนกว่าจะมีวัสดุทดแทน

แต่อันที่จริง ถ้าทุกคนตระหนักถึงภัยขยะพลาสติก ล้นโลกก่อมลพิษต่อมนุษย์เอง คร่าชีวิตสัตว์ป่า สัตว์น้ำ

สามารถลดใช้ถุงพลาสติกใส่อาหารก็ได้ทันที ด้วยการพกกล่องใส่อาหาร หิ้วปิ่นโต รวมทั้งถือตะกร้าเข้าตลาดเหมือนอดีต ก็ช่วยได้มาก

ไม่ใช่เรื่องเชย ถือว่าทันสมัย เข้าใจในภัยยุคปัจจุบัน ด้วยซ้ำ

อย่างหนุ่มสาวออฟฟิศยุคนี้ ยุคพกกระบอก ใส่กาแฟร้อน กาแฟเย็น หรือน้ำดื่มใส่น้ำแข็งต่างๆ

ทั้งลดใช้แก้วพลาสติก แล้วยังรักษาความร้อน ความเย็น ไม่สิ้นเปลืองอีกด้วย

แม้แต่งานเลี้ยงปีใหม่ พากันหันมาใช้แก้วทัมเบลอร์ ใส่เครื่องดื่มกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว

นี่คือเรื่องน่ายินดี ที่ทั่วสังคมเริ่มตื่นตัวกันมาก

ขณะที่ในระดับชาติ ก็ได้รัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อม เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ก้าวทันโลก จึงผลักดันโครงการที่ทันสมัย ถูกจุดถูกต้องกับปัญหาใหญ่ในยุคนี้

แต่ก็ต้องระมัดระวัง อย่าสุดโต่งมากไป!

อย่าถึงขั้นบังคับขู่เข็ญ

เช่น ไม่ควรจ้องจับผิดชาวบ้านทั่วไป หากใครยังถือถุงพลาสติกหูหิ้วอยู่ ก็อย่าได้ถึงขั้นเอามาประจานกันในโซเชี่ยล

หรือขนาดให้ทีวีควบคุมไม่ให้มีภาพถุงพลาสติกออกจอ นั่นก็จะเข้าข่ายเข้มงวด ปิดกั้น ไม่ใช่การทำความเข้าใจ!?!

โครงการของรัฐมนตรีวราวุธ ที่กำลังไปได้ด้วยดี ไม่ควรสะดุด

ถ้าทุกคนทำด้วยจิตสำนึกตระหนักในเนื้อแท้ปัญหา จะได้ผลจริงและยั่งยืน!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน