การเมืองยุ่ง-เศรษฐกิจแย่ วิ่งไล่ลุงจึงจุดติด
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
วิ่งไล่ลุง – กลุ่มนิสิตนักศึกษาและนักกิจกรรมการเมือง ซึ่งมีนายธนวัฒน์ วงค์ไชย นิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นแกนนำ คือผู้คิดค้นกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ซึ่งนอกจากประสบความสำเร็จอย่างมาก เมื่อมีผู้คนเข้าร่วมกว่าหมื่นคน ล้นสวนรถไฟเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมไปถึงที่จัดกันในอีกหลายๆ จังหวัดทั่วประเทศ
ที่บ่งบอกความสำเร็จของวิ่งไล่ลุงอีกประการเห็นได้จาก การที่กองเชียร์ฝ่ายรัฐ ก็ยังต้องจัดกิจกรรม “เดินเชียร์ลุง” ขึ้นมาเลียนแบบและเดินตาม
เมื่อเขาเกิดไอเดียไล่ลุง ก็ต้องตามแห่กันออกมาเชียร์ลุง
แถมก่อนหน้านั้น 1 วัน กระทรวงสาธารณสุข ก็ยังจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ยุง” เพื่อรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก
แอบอิงไปกับ “วิ่งไล่ลุง” ที่กลุ่มนายธนวัฒน์คิดค้นขึ้นมา
เท่ากับว่า “วิ่งไล่ลุง” ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ ได้กลายเป็นกระแสหลักในสังคมไทยไปแล้ว!
จากนี้ไปกระแสวิ่งไล่ลุง ก็จะยังคงแผ่ขยายไปได้เรื่อยๆ ถือเป็นเครื่องสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนในสังคมไทย ที่มีต่อรัฐบาลนั่นเอง
เหมือนกับที่มีชาวบ้านแสดงออกต่อหน้าต่อตา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สถานีขนส่งหมอชิต บอกกันตรงๆ ว่าเบื่อนายกรัฐมนตรี
ไปจนถึงเสียงบ่นที่กระหึ่มไปทั่วย่านตลาดร้านค้า เพราะสภาพการค้าขาย สภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกดังกล่าว
ว่ากันว่าเมื่อเข้าสู่ปีใหม่นี้ ระดับ “เจ้าสัว” ก็เริ่มบ่นกันบ้างแล้ว!!
เพราะการลงทุนไม่คึกคักเท่าที่ควร ไม่มีเงินไหลเข้าประเทศ ภาพรวมของเศรษฐกิจค่อยๆ เหี่ยวเฉาลงไปเรื่อยๆ
ขณะที่ในหมู่ชาวบ้านเริ่มพูดประชดกันแล้วว่า เลิกแจกเงินได้แล้ว หันมาแจกเตาอั้งโล่แทนจะดีกว่า!?!
เศรษฐกิจก็ลำบาก ทางการเมืองก็มากปัญหา เพราะเริ่มจากความไม่ชอบธรรม
เริ่มเข้าสู่อำนาจจากม็อบชัตดาวน์ จงใจให้ประเทศเข้าสู่ทางตัน เพื่อให้ทหารออกมา
จากนั้นคณะรัฐประหารก็ครองอำนาจต่อไปอีกถึง 5 ปี พอต้องถอยเพื่อให้เลือกตั้ง ก็เต็มไปด้วยปัญหา
เต็มไปด้วยกฎกติกาปาฏิหาริย์ พิสดาร!?!
พรรคที่ชนะเลือกตั้งอันดับ 1 ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะพรรคที่ไม่ชนะ มี 250 ส.ว.คอยโหวตให้
พรรครุ่นใหม่ที่มาแรง เป็นแค่ฝ่ายค้าน ยังไม่ได้บริหารงานอะไรเลย
กลับมีความผิดสารพัดข้อหา ถูกกีดกันออกไปจากระบบสภา
การเมืองมากด้วยความไม่เป็นธรรม การบริหารงาน ปากท้องชาวบ้านก็มากปัญหา
การวิ่งไล่ลุง จึงจุดติดและกลายเป็นกระแสหลักของสังคมไปแล้ว!