อาการรัฐบาล หนักกว่าป่วยไวรัส

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

โดย…วงค์ ตาวัน

อาการรัฐบาล หนักกว่าป่วยไวรัส อาการของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเวลานี้ ต้องบอกว่าย่ำแย่ยิ่งกว่าติดไวรัสอู่ฮั่นเสียอีก โดยเป็นปัญหาที่มาจากไวรัสโคโรนานั่นแหละ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการตั้งคำถามถึงความสามารถในการจัดการแก้ไขสถานการณ์วิกฤต

โดยมีภาพเปรียบเทียบในสมัยที่ประเทศเราเผชิญภัยโรคซาร์ส ไข้หวัดนก ภัยพิบัติสึนามิ ไปจนถึงจลาจลกัมพูชา เห็นความสามารถของผู้นำรัฐบาลในสมัยนั้น โดดเด่นชัดเจน

แต่วันนี้ปัญหาจากไวรัสโคโรนา หนักหนาสาหัสยิ่งขึ้น ในเรื่องใกล้ตัวประชาชนคนไทย

นั่นคือหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ หาซื้อยากและโดนโก่งราคา ชาวบ้านเดินหาซื้อกันขาลาก หรือไม่ก็ต้องไปเข้าคิวรอ!

ทีแรกพล.อ.ประยุทธ์ พูดจาเสียงแข็งว่า ไม่ขาดตลาด ทำเอาใครได้ยินได้ฟังแล้วต้องตะลึง

แสดงว่าท่านผู้นำรัฐบาลไม่ได้ออกมาสัมผัสบรรยากาศตามตลาด ตามร้านค้าต่างๆ บ้างเลย!?!

แล้วเล่นโต้แย้งว่า ถ้าหาซื้อไม่ได้ ทำไมไม่ไปซื้อที่โรงงาน ก็ยิ่งไปกันใหญ่

ไปๆ มาๆ เปิดขายเองที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ก็ไม่ได้รับเสียงชื่นชมอะไรเลย

เพราะราคาแพงกว่าที่อื่นเสียอีก

จนเริ่มมีคำถามว่า อันที่จริงรัฐบาลมีหน้าที่จัดหามาให้ประชาชนโดยเร็วและเพียงพอที่สุด กระทั่งต้องแจกฟรีด้วยซ้ำ มิใช่หรือ!?

คราวนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ลุกลามไปถึงขั้นตั้งคำถาม ถึงการเสียภาษีของประชาชนคนไทย

รัฐบาลเอาเงินไปจัดซื้ออะไร แทนที่จะจัดสรรมาดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน ในท่ามกลางวิกฤตไวรัสระดับโลก!

ตอนนี้ก็พูดกันไปทั่วแล้วว่า เอารัฐบาลที่สืบทอดมาจากรัฐบาลทหาร ก็เก่งแต่เรื่องจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์

ย่อมไม่รู้เรื่องหน้ากากอนามัยและสุขภาพประชาชน

ยิ่งไม่ต้องพูดไปถึงความสามารถในการแก้วิกฤตในภาพรวม เอาแค่เรื่องหน้ากาก เรื่องเจลล้างมือ ก็ลำบากแล้ว

ดังนั้นอารมณ์ของประชาชนคนไทยวันนี้ถึงขั้น โห่ไล่รองนายกฯ กันแล้ว!!

หลังจากที่ต้องไปเข้าคิวรอซื้อหน้ากากอนามัยอยู่เป็นนาน

แถมรองนายกฯ อีกคน ที่ขยันเดินแจกหน้ากากอนามัย ก็ไปอารมณ์เสียไล่ฝรั่งกลับประเทศเสียอีก

ไปกันใหญ่แล้วจริงๆ สำหรับอาการของรัฐบาล ในวิกฤตไวรัสโคโรนา

แล้วทำไมชีวิตประชาชนคนไทยจึงต้องอยู่กับการเมืองที่มีกติกาผูกขาดอำนาจเอาไว้

ทำอย่างไรเราจะได้รัฐบาลที่เปิดรับคนเก่งคนรอบรู้ทันโลกคิดกว้างไกล!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน