กาศึกษากันให้มากรก่อเหตุในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มีหลายชั้น มีประชาชนเข้าไปเที่ยวช็อปปิ้งมากมาย เป็นจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งที่ต้อง

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สังคมไทยเพิ่งช็อกกับเหตุการณ์ผอ.โรงเรียนปล้นร้านทองภายในห้าง แล้วยิงดะจนตายไป 3 ศพ

ขณะที่กรณีจ่าทหารปืนคลั่งรายนี้ ไล่ยิงไปทั่วเมืองโคราช แล้วยิงกราดภายในห้างอีก จนมีจำนวนเกินกว่า 30 ศพ ซึ่งสยดสยองอย่างมาก

แม้แต่เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษของตำรวจ เข้าปฏิบัติการ เพื่อจะจับกุมคนร้ายที่ซุกซ่อนตัวอยู่ภายในห้าง ท่ามกลางประชาชนที่ติดค้างหลบซ่อนอยู่อีกหลายร้อยคน

เป็นเรื่องยากเย็นอย่างมาก ทั้งสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง!

จนทำให้ตำรวจหน่วยอรินทราช 26 ต้องสูญเสียถึง 2 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

เป็นตำรวจมือดีระดับร.ต.อ.ด้วย

แต่ความรุนแรงอย่างทะลุขีดของอาชญากรรายนี้ เป็นเพราะผู้ก่อเหตุเป็นทหารที่ชำนาญเรื่องปืน เป็นนักยิงปืน และยังนำเอาอาวุธสงครามร้ายแรงหลายกระบอก กระสุนอีกเกือบพันนัดมาใช้ไล่ฆ่าคน

เฉพาะหน่วยอรินทราช ที่ต้องเสี่ยงอย่างมาก จนถึงแก่ชีวิตนั้น เพราะต้องเข้าประชิดคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนกลเอ็ม 60

ยิงทะลุโล่กันกระสุน ทะลุเสื้อเกราะได้หมด

ดังนั้นที่ต้องสรุปบทเรียนอย่างจริงจังที่สุดไม่พ้นกองทัพ!!

ตั้งแต่ระเบียบวินัย สภาพจิตใจเจ้าหน้าที่ และการป้องกันการแย่งชิงอาวุธปืนร้ายแรงออกมาใช้ก่อเหตุ

ล่าสุดผบ.ทบ.ได้มีคำสั่งควบคุมเข้มงวดเรื่องอาวุธในหน่วยทหารครั้งใหญ่แล้ว

ขณะเดียวกันตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุ ควบคุมสถานการณ์ ได้รับเสียงปรบมือกระหึ่มเมือง

โดยเฉพาะพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ใส่เสื้อเกราะถือปืนเข้าคุมปฏิบัติการภายในห้างด้วย ตัวเอง!

รวมทั้งลูกชายผบ.ตร.คนดัง ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา นำหน่วยพลร่มนเรศวร เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย

แถมยังมีระดับรองผบ.ตร.พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ถือปืนเข้าลุยยิงปะทะเอง โดยมีพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อีกรองผบ.ตร.ร่วมปฏิบัติการอย่างเข้มข้น

ฟื้นศรัทธาของวงการตำรวจให้กลับคืนมาได้มากโข หลังจากที่เพิ่งพิชิตคดีปล้นร้านทอง 3 ศพ มาหมาดๆ

ทั้งหลายทั้งปวง คดีฆ่าคนตายถึง 30 ศพ ต้องนับเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ทั้งสังคมต้องสรุปบทเรียน

บัดนี้เราเป็นสังคมใช้ความรุนแรงเต็มพิกัด ไม่ใช่เมืองยิ้ม รักใคร่เป็นเครือญาติอีกแล้วใช่ไหม!?!

โดย – วงค์ ตาวัน