วิกฤตหน้ากากอนามัย

ผลิตแล้วหายไปไหน

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

โดย…วงค์ ตาวัน

วิกฤตหน้ากากอนามัย ผลิตแล้วหายไปไหน – ความที่มีการวางกฎกติกาเพื่อให้เกิดการผูกขาดอำนาจเอาไว้กับคนกลุ่มหนึ่ง โดยมีพรรคการเมืองต่างๆ เข้ามามีส่วนประกอบเพื่อให้ดูหน้าตาเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง เอาเข้าจริงๆ ระบบผูกขาดนี้ เป็นการปิดกั้น ทำให้ไม่มีคนเก่งๆ คนมีความสามารถเข้ามาร่วมบริหารประเทศได้

ส่งผลให้ประชาชนคนไทยต้องเผชิญกับปัญหาสารพัด เช่น เศรษฐกิจตกต่ำตลอดหลายปี แล้วก็ต้องดิ้นรนแก้ปัญหากันเอาเอง

วิกฤตไวรัสโควิด ที่กระทบหนักไปทั่วโลก ในบ้านเราเองล่าสุด มีเสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย จากการติดเชื้อภายในประเทศเอง โดยคาดว่าเพราะสัมผัสกับนักท่องเที่ยว ชาวจีนที่มาช็อปปิ้ง

ทำให้คนไทยต้องหวาดผวากันหนักอีก

ท่ามกลางความไม่เชื่อมั่นในผู้บริหารประเทศ ว่าจะมีฝีไม้ลายมือพอจะคลายวิกฤตนี้ได้!?

แค่เรื่องหน้ากากอนามัยที่ขาดแคลน ก็สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาเป็นเดือนๆแล้ว

ร้านค้าร้านยาทั่วไปไม่มีขาย

ที่ขายหรือแจกโดยรัฐ ก็ต้องไปต่อคิวกันยาวเหยียด

ตอนนี้โรงพยาบาลต่างๆ แพทย์ ออกมาเรียกร้องอย่างเป็นทางการแล้วว่า ในโรงพยาบาลก็ไม่มีใช้กันแล้ว

หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ไม่มีหน้ากากอนามัย ไร้ชุดต่างๆ สำหรับป้องกันตัวเอง ทั้งที่เป็นด่านหน้าในการเผชิญกับไวรัสร้ายแรงนี้

ฟังแล้วน่าตกใจ ขนาดวงการแพทย์ต้องร้องเรียน

ปล่อยให้ทำงานอย่างเสี่ยงตายได้อย่างไร เหมือนให้คนมือเปล่าเข้าไปต่อกรกับศัตรูร้าย!

ขณะที่นายกฯและรัฐมนตรีเสียงแข็งกันมาตลอดว่า ไม่ขาดตลาด ไม่ขาดแคลน

แต่ความจริงประชาชนทุกคนรู้ดี แม้แต่พวกกองเชียร์รัฐบาล ก็ต้องรู้ว่าทุกคนหาหน้ากากอนามัยได้ยากเย็น

ถึงขนาดที่ทำให้นักฉวยโอกาสจิตใจอำมหิตเกิดไอเดียธุรกิจหน้ากากมือสอง ไปกว้านซื้อที่ใช้แล้ว มาซักล้างและรีด เพื่อตบตาออกขาย แล้วก็ขายได้จริงๆ เพราะประชาชนต้องดิ้นรนหาซื้อ

มีการตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลเข้าควบคุมถึงแหล่งผลิตหน้ากากอนามัย ใช้อำนาจกรมการค้าภายในเข้าไปจัดหาถึงโรงผลิต

แล้วหน้ากากมหาศาลนี้ไปไหน ทำไมจึงขาดแคลน และทำไมจึงขายแพงกว่าปกติ

ไปจนถึงมีขายว่อนในตลาดมืด!?!

ขณะที่ชาวบ้านทั่วไปกระทั่งหมอกลับลำบากไม่มีใช้

คงไม่ใช่แค่ปัญหาการบริหารจัดการไม่เป็นเท่านั้น แต่ยังน่าสงสัยถึงการทุจริตอีกด้วย

เจอปัญหานี้เข้า หลายคนคงเข้าใจมากขึ้นว่า ทำไมนักเรียนนิสิตนักศึกษาจึงเคลื่อนไหวไล่เผด็จการกันไปทั่ว!!