พรรคก้าวไกล
ต้องอดทนกันต่อไป
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
พรรคก้าวไกลต้องอดทนกันต่อไป – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ของเหล่าส.ส.อดีตอนาคตใหม่ โดยจะรับหน้าที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมกับนำ 55 ส.ส.เข้าสังกัดพรรคชื่อใหม่นี้
โดยยืนยันยึดมั่นอุดมการณ์เดิมของอนาคตใหม่ ต่อไป
ก็น่าจะเป็นพรรคที่มีบทบาทชัดเจนเป็นที่จับตาและเป็นความหวังของคนที่ต้องการให้การเมืองไทยพัฒนาก้าวหน้าไปสู่สิ่งใหม่ๆ
ขณะเดียวกันมีคำให้สัมภาษณ์ของแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ต้อนรับพรรคการเมืองใหม่นี้ด้วยความยินดี และอยากเห็นการทำงานการเมืองด้วยความอดทนและเดินอยู่ในกรอบประชาธิปไตย
เป็นคำพูดที่ไม่รู้ว่าจะพูดขึ้นมาทำไม กระตุ้นอารมณ์ผู้คนเขาเปล่าๆ
ให้อดทนก้มหน้ารับชะตากรรมในการเมืองยุคที่มีรัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อพวกเราอย่างนั้นหรือ!?
เลือกตั้งกันมาแทบตาย แต่พอโหวตนายกฯเพื่อตั้งรัฐบาล ตัดสินกันที่ 250 ส.ว.ที่คสช.คัดมาเอง
ต้องอดทนยอมรับประชาธิปไตยแบบนี้ต่อไปใช่ไหม
ยิ่งพูดคนก็ยิ่งนึกถึงการยุบพรรคอนาคตใหม่ด้วยข้อหากู้เงินจากหัวหน้าพรรค เทียบกับโต๊ะจีน 650 ล้านพรรคพลังประชารัฐ ที่กกต.บอกว่าไม่เป็นไร
หัวหน้าอนาคตใหม่ ยังไม่เคยได้เข้าทำงานในสภา เพราะถูกตัดสินข้อหาถือครองหุ้นสื่อ ซึ่งเป็นสื่อที่ปิดกิจการไปแล้ว
แต่นายกฯของพลังประชารัฐ ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ไม่เป็นอะไร!?
ก็คงจะจริง ที่พรรคก้าวไกล พรรคใหม่ของอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ ก็ต้องก้มหน้าก้มตาอดทน
ยังไงก็ต้องเดินในกรอบประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญดีไซน์มาพิเศษอยู่ต่อไป
แล้วปัญหาทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้แหละ ที่จุดชนวนให้นิสิตนักศึกษาฮือออกมาทุกมหาวิทยาลัยในขณะนี้
จนมีเสียงเตือนถึงกลุ่มผู้กุมอำนาจ ถ้ายังไม่มีทีท่าจะรับฟังเสียงจากคนหนุ่มสาว ยังไม่ยอมปรับแก้คลี่คลายอะไร ก็รอวันพัฒนาจากแฟลชม็อบไปสู่อย่างอื่น เท่านั้นเอง
พอพูดถึงแฟลชม็อบนักศึกษา ที่น่าคิดอีกประการ การเรียกร้องให้ชาวอนาคตใหม่ในนามพรรคก้าวไกล ทำงานการเมืองอย่างอดทนในกรอบประชาธิปไตยนั้น
ตีความได้อีกอย่าง ทำให้เหมือนข้อกล่าวหาที่ว่า มีการเมืองอยู่เบื้องหลังการปลุกปั่นนักศึกษา!?
นี่ก็แสดงว่า ยังมองความเคลื่อนไหวของเด็กรุ่นใหม่อย่างไม่เข้าใจ
ไม่ได้มีการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลหรอกที่ ปลุกปั่น
ตัวการปลุกปั่นก็คือสภาพการเมืองที่มีรัฐธรรมนูญที่ก่อให้เกิดกติกาพิสดาร เกิดผลกฎหมายปาฏิหาริย์ทั้งหลาย
นี่แหละ คือตัวจุดชนวนให้คนหนุ่มสาวไม่ขอทนอีกต่อไป!
วงค์ ตาวัน