สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ช่วง

ห้ามกะพริบตา!!

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

โดย…วงค์ ตาวัน

สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ช่วงห้ามกะพริบตา!! – บรรดาผู้รอบรู้ที่ผ่านช่วงวิกฤตการเมืองไทยมาอย่างโชกโชนหลายรอบหลายหน พูดตรงกันว่า สถานการณ์ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันนี้ มาถึงจุดที่ต้องรีบสะกิดเตือนคนดูทั้งหลายว่า เป็นช่วงที่ห้ามกะพริบตาจริงๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้

แน่นอนว่า ทุกอย่างมีความเป็นมา

เกิดปัญหาความชอบธรรมตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาล โยงมาตั้งแต่การเลือกตั้งและวิธีนับคะแนนที่มากด้วยความพิสดาร ทำให้รัฐบาลมีตำหนิ ไม่เป็นที่ยอมรับจากประชาชนบางส่วน

ต่อจากนั้นก็เต็มไปด้วยเรื่องผิดพลาดบกพร่องมากมาย จนความไม่ยอมรับเริ่มพอกพูนมากขึ้น

จนกระทั่งบ้านเมืองเราเดินมาถึงจุดสำคัญที่สุด ด้วยเป็นผลจากรัฐบาลนี้จากสภาพการเมืองในยุคนี้โดยตรง

นั่นคือ สามารถจุดชนวนให้ขบวนการนิสิตนักศึกษา ฟื้นคืนมาได้อีกครั้ง หลังจากซบเซาไปยาวนานมาก!

เรียกได้ว่า นับจากถูกปราบปรามเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 จากนั้นมาบทบาทของขบวนการนักศึกษาที่เคลื่อนไหวในปัญหาบ้านเมืองก็ซบเซามาตลอด

ใครจะเชื่อว่า ในยุคการเมืองเช่นนี้แหละ ที่ปลุกวิญญาณคนหนุ่มสาวเสรีให้ลุกฮือกันได้อีกครั้ง และเป็นไปอย่างกว้างขวางมาก

มีแฟลชม็อบปะทุขึ้นในแทบทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ที่เรียกกันว่าไฟลามทุ่ง

แล้วเลิกคิดเอาเอง หรือฟังรายงานผิดๆ ว่า มีการเมืองยุยงปลุกปั่นนักศึกษา

การเกิดของแฟลชม็อบ มาจากการสั่งสมอารมณ์ความไม่พึงพอใจของคนรุ่นใหม่ ต่อการเมืองในยุคผูกขาดอำนาจ ด้วยกลไกกติกาพิสดาร

สะสมจากโลกทวิตเตอร์ จนมาถึงจุดปะทุขึ้นเป็นการรวมตัวกันชูป้ายประท้วงและเปิดไฮด์ปาร์ก!

โดยเหตุการณ์ที่เหมือนทำให้มาถึงจุดเดือด ก็คือ การยุบพรรคอนาคตใหม่ที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่

แต่ไม่ใช่ประท้วงเพื่อเรียกร้องพรรคอนาคตใหม่กลับมา แต่เพราะเห็นกระบวนการทางการเมืองที่ไม่เป็นธรรม

แล้วเหตุการณ์ที่เสริมพลังให้คนรุ่นใหม่ต่อมา คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่เปิดโปงขบวนการไอโอสร้างความแตกแยกในสังคม

ไปจนถึงคำว่า “แป้ง” ที่หลุดออกมาอย่างไม่น่าเชื่อกลางสภา จนกลายเป็นคำล้อเลียนติดปาก!

แถมบานปลายต่อมาในสถานการณ์โควิดระบาดหนัก เกิดคำว่า “ผ้าอนามัย” ใช้เสียดสี “หน้ากากอนามัย” ต่อเนื่องมาจากคำว่า “แป้ง”

ทั้งประสิทธิภาพในการจัดการและทั้งปมไม่ชอบมาพากล จนประชาชนและหมอพยาบาล ขาดแคลนหน้ากากป้องกันไวรัส

จากแฟลชม็อบในมหาวิทยาลัย มาสู่กระแสประชาชนในสถานการณ์โควิด

นั่นคือสถานการณ์อลหม่าน ที่บรรดาผู้รอบรู้การเมืองพากันสะกิดคนดู

กำลังเข้าสู่ช่วงห้ามกะพริบตาเป็นอันขาดแล้ว!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน