บทเรียนการยึดอำนาจ
ทั้งโควิด-เศรษฐกิจ
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
บทเรียนการยึดอำนาจ ทั้งโควิด-เศรษฐกิจ – มองอีกแง่หนึ่ง ความพยายามจะดึง 20 มหาเศรษฐี เข้ามาร่วมมือกับรัฐบาลในการฝ่าวิกฤตนั้น อาจต้องการแก้ปมประเด็นที่โดนวิจารณ์หนักว่า รัฐบาลนี้ขาดแคลนมืออาชีพ ไม่มีผู้เชี่ยวชำนาญจริงๆ ในการ แก้สถานการณ์ร้ายแรง
เลยต้องแสดงให้เห็นความร่วมมือจากกลุ่ม ผู้มีอิทธิพลในทางเศรษฐกิจ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล
โดยเฉพาะในช่วงเวลาอันใกล้นี้ จะต้องหยุดภาวะที่คนกำลังจะอดตาย ซึ่งอาจจะรุนแรงกว่าตายด้วยโควิดเสียอีก
เพราะในขณะที่กำลังดีอกดีใจว่า ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เคอร์ฟิว ควบคุมให้คนในสังคมอยู่กับบ้านได้
แต่กฎเหล็ก ซึ่งหยุดระบาดโรคได้ แต่อีกด้านทำให้เศรษฐกิจค่อยๆ ล้มลง ชาวบ้านตกงาน หมดรายได้!?!
ขนาดที่คนซึ่งยังพอมี ลุกขึ้นมาแจกข้าวปลาอาหารให้คนยากไร้ ยังโดนอำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินเข้ามาควบคุม จะเอาผิดดำเนินคดีด้วยซ้ำ
นี่คือความถนัดของรัฐบาลที่เคยชินมาจากยุคคสช. แต่ไม่ใช่ในยุคที่ต้องแก้โรคระบาด พลิกวิกฤตเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน
สภาพของรัฐบาลที่มีพลเอกเป็นแกนนำ จึงต้องกุมขมับ ไปไม่เป็น
ขณะที่การเร่งฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้พังทลายทั้งโครงสร้าง ต้องทำภายในเดือนหน้านี้แล้ว แต่ความหวาดผวาว่า ตัวเลขคนป่วยคนตายที่กำลังดูดี ต้องสูญเสียสถิตินี้ไปหรือไม่ จึงทำให้การตัดสินใจเปิดกิจการห้างร้านหรือไม่นั้น
ยังถกเถียงกันไม่จบในหมู่ผู้มีอำนาจตัดสินใจ!?
ดังนั้น การขอความร่วมมือจาก 20 มหาเศรษฐีที่มีประสบการณ์และกุมกลไกทางเศรษฐกิจ
อาจหวังนำมาอุดช่องโหว่ ทั้งในด้านความเชื่อมั่น ทั้งเพื่ออาศัยเครือข่ายเจ้าสัวช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไม่ให้ล้ม
แต่พอนายกฯ ใช้คำว่ามหาเศรษฐี เลยทำให้เกิด ข้อสงสัย ทั้งในเรื่องเงินและประโยชน์ตอบแทน
ในที่สุดโครงการ 20 มหาเศรษฐี ก็ต้องลดระดับลง เหลือแค่การพูดคุยกันผ่านจดหมาย
น่าจะไม่มีผลให้เกิดความคึกคักใดๆ
ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่ไม่ป่วย แต่ไม่มีกิน ใกล้ถึงจุดระเบิดในช่วงเดือนสองเดือนข้างหน้านี้
ทั้งหลายทั้งปวง เพราะการวางแผนในการยึดกุมอำนาจการเมืองของคนกลุ่มหนึ่ง ตั้งแต่ปลายปี 2556 ถึงต้นปี 2557 วางให้รัฐบาลทหารอยู่ในอำนาจอีก 5 ปี แล้วปรับโฉมเป็นรัฐบาลกึ่งทหารกึ่งนักการเมือง
โดยไม่คาดคิดว่า จะเกิดโรคภัยร้ายแรง เศรษฐกิจชะงักงัน
เข้ามาเพื่อรักษาอำนาจเอาไว้ เลยไม่มีคนเก่งกาจมากวิสัยทัศน์เข้ามาเป็นผู้นำในการแก้ไขวิกฤต
เป็นบทเรียนแสนสาหัสที่ต้องจดจำไปอีกนาน!
