เมาหมัดในเรื่องมึนเมา

เตะหมูเข้าปากหมา

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

โดย…วงค์ ตาวัน

เมาหมัดในเรื่องมึนเมา เตะหมูเข้าปากหมา – บรรดาคนที่ออกมาพูดจาขึงขัง แสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์คนไปแย่งซื้อเหล้าเบียร์ในวันแรกที่เริ่มผ่อนปรน เพื่อจะนำมาสู่บทข่มขู่ว่า ถ้ายังเกิดเหตุการณ์นี้อีก ก็เห็นทีจะต้องยกเลิกมาตรการผ่อนปรนนี้เสียแล้ว

รู้กันบ้างไหมว่า ชาวบ้านฟังแล้วพากันตลกขบขัน

เพราะเหตุการณ์ที่ตกเป็นข่าวนั้น เกิดขึ้นในห้างค้าส่ง ไม่ใช่ห้างค้าปลีก!

คนที่ไปแย่งซื้อกันนั้น ไม่ใช่ชาวบ้านที่ไปซื้อแค่ไม่กี่ขวดไม่กี่กระป๋อง แต่เป็นยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เจ้าของร้านค้า ซื้อทีละ หลายๆ ลัง

การเอาเหตุการณ์ชุลมุนนั้นมาข่มขู่ประชาชนทั่วไป จึงผิดกรณีผิดเรื่องผิดราวอย่างสิ้นเชิง

พูดเหมือนคนไม่รู้ข้อเท็จจริง ฝ่ายรายงานข้อมูลก็มั่วซั่วไม่รู้เรื่องรู้ราว กลายเป็นตัวตลกในสายตาประชาชน!!

ขณะเดียวกัน ที่ฮึ่มฮั่มว่าจะเลิกผ่อนปรนไม่ให้ขาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกแล้วนั้น ชาวบ้านเขาฟังแล้วก็ส่ายหน้า

เตะหมูเข้าปากหมาชัดๆ

ส่งเสริมตลาดมืดเต็มๆ โก่งราคาขายได้อีกหลายเท่า

อาจจะมีคำถามว่า ถ้าราคาแพงหลายเท่าแล้วจะไปซื้อทำไม เครื่องดื่มที่ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็น ทำลายสุขภาพอีกต่างหาก

นั่นก็ต้องถามว่า เครื่องดื่มเหล่านี้อยู่คู่กับโลกมา ยาวนานขนาดไหน แล้วเชื่อมโยงกับงานสร้างสรรค์ศิลปะ ดนตรี กวี ภาพวาด งดงาม มากด้วยจินตนาการเช่นไร!?

แล้วคนที่ดื่มมากมาย อย่างไม่ได้เมาเลอะเทอะ หรือสติแตกสร้างความเสียหาย ก็มีมากมายมิใช่หรือ

แต่ถึงที่สุดแล้ว การพูดถึงเหล้าเบียร์ ไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด ในช่วงวิกฤตโควิด ไม่เทียบเท่าข้าวปลาอาหารและการเยียวยาชาวบ้านที่ยากลำบาก ตกงานกันมหาศาล!

เพียงแต่เป็นเรื่องหนึ่งในวิกฤตนี้ ที่สะท้อนวิธีคิดวิธีแก้ปัญหาที่ผิดพลาด สำคัญสุดเป็นเรื่องสะท้อนการใช้อำนาจ โดยละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างไร้เหตุผล

แม้แต่ภาพเหตุการณ์ไปแย่งยื้อหอบลังเหล้าเบียร์กันวุ่นวายนั้น นอกจากจะต้องมาเน้นย้ำว่า นั่นไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไป แต่เป็นเหล่าเอเยนต์ เจ้าของร้านค้าแล้ว

ยังต้องอธิบายว่า ที่รีบร้อนกันไปกว้านซื้อนั้น เพราะไม่มีใครแน่ใจในนโยบายรัฐ ไม่มีใครมั่นใจในประกาศคำสั่งต่างๆ

จะชักเข้าชักออกกันอีก เหมือนหลายๆ คำสั่งหลายๆ มาตรการที่ผ่านมาหรือไม่

เพราะบรรดาผู้มีอำนาจสั่งการ ไม่เคยสร้างความเชื่อมั่นใดๆ ได้ในวิกฤตครั้งนี้

ส่วนเจ้าของร้านที่แห่กันไปซื้อมานั้น หลายรายก็คือเพื่อการบริการลูกค้า และเป็นรายได้ของพ่อค้าตัวเล็กตัวน้อย ในช่วงที่ทุกคนหากินยากลำบากกันแทบทั้งสิ้น

หรือบางรายที่เตรียมเอารัดเอาเปรียบ ถ้าเลิกผ่อนปรนเมื่อไร ก็คือความร่ำรวยของตลาดมืดได้สูบเลือดเนื้อชาวบ้านได้ทันที

นี่คือความเมาหมัดในเรื่องนโยบายของมึนเมาอย่างน่าตลกที่สุด!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน