คอลัมน์ ชกไม่มีมุม : จุดด้อยจากโควิด เขย่าเก้าอี้ครม. – โดย…วงค์ ตาวัน
เวลาพูดถึงพรรครวมพลังประชาชาติไทย แทบจะไม่มีใครจำชื่อนี้ได้ แต่ถ้าเรียกพรรคเทือก ก็จะนึกออกทันทีว่าหมายถึงพรรคไหน เพราะใครก็รู้ว่าพรรคนี้มีใครเป็นเจ้าของตัวจริง อีกทั้งก็ไม่ค่อยปรากฏเป็นข่าวคราวให้ได้พูดถึงพรรคนี้กันสักกี่มากน้อย
จนกระทั่งมาเกิดเรื่องการไขก๊อกของม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หรือหม่อมเต่า โดยลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเทือก ซึ่งส่งผลถึงเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานด้วย
สถานการณ์จึงประจวบเหมาะกันหมด
พรรคพลังประชารัฐนั้น จ่อรออยู่แล้ว ทั้งเตรียมเปลี่ยนหัวหน้า เลขาธิการพรรค และปรับครม.แน่ๆ
แล้วยังเกิดกระแสร้อนแรงในพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้เปลี่ยนผู้บริหารพรรค ซึ่งก็โยงถึงการปรับครม.อีกนั่นแหละ
แม้ว่าเอาเข้าจริงๆ ศึกในพลังประชารัฐก็ยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
แถมอีกขั้วในพรรค ก็ทำท่าตั้งป้อมสู้กับป้อมอยู่อีกด้วย!?!
ความอึมครึมของการเมืองภายในรัฐบาล จึงยังปรากฏอยู่
ส่วนในพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้อาวุโสออกมาปรามศึกด้วยตัวเอง ทำให้กระแสซาลงไป
แต่มีควันย่อมมีไฟ จะดับได้สนิทจริงหรือไม่ ยังต้องมองกันต่อไป
อีกทั้งเมื่อในพลังประชารัฐเอง ต้องเดินหน้าเพื่อปรับพรรค ก็ต้องปรับครม.ด้วย
ถึงเวลาต้องปรับทั้งพลังประชารัฐและเก้าอี้รัฐมนตรีแรงงาน คงต้องมีแรงกระเพื่อมถึงประชาธิปัตย์ด้วยแน่ๆ!
การเมืองภายในรัฐบาล ช่วงระยะนี้คงมีเรื่องปั่นป่วนอยู่พอสมควร
แต่ถ้าถามว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดกระแสการปรับครม.ขึ้นมา
ส่วนหนึ่งเพราะโควิด ที่รัฐบาลมีเด่นด้านหนึ่ง แต่ด้อยอีกด้านหนึ่ง
กรณีหม่อมเต่าชัดเจนว่า มาจากการลงมติของกรรมการพรรคเทือก ประเมินผลงานของรัฐมนตรีแรงงานว่าไม่ผ่าน!?
โดยในช่วงโควิด มีผู้ว่างงานนับล้านคน แต่แก้ปัญหาได้ไม่เท่าทันความเดือดร้อนของประชาชน
เช่นเดียวกับในพรรคพลังประชารัฐ ที่เกิดกระแสการทำงานด้านเยียวยาประชาชนตกหล่น จนทำให้เสียคะแนนเสียง
ทำให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ตกเป็นเป้า
หรือในประชาธิปัตย์ ก็เสียคะแนนในเรื่องหน้ากาก
จุดบอดของรัฐบาลในโควิด จึงเป็นชนวนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว!
