แม่ค้าขายขนมหม้อแกงเครียดใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อขมับตัวเองดับคาเตียงนอน ทิ้งจดหมายลาตาย 4 หน้ากระดาษ ระบายความอัดอั้น ตัดพ้อทำผิดพลาดหลายครั้ง ทำให้พ่อแม่คนที่รักผิดหวัง ตัดสินใจฆ่าตัวตายลาโลก
วันที่ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พิภัช วงค์เดช รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุคนยิงตัวตาย เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลกระบี่ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุขกระบี่
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ ปลูกติดกันหลายหลัง ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ตรวจสอบบนห้องนอนชั้นสอง พบศพผู้เสียชีวิตสภาพนอนหงาย จมกองเลือดบนเตียงนอน อยู่ในชุดสวมเสื้อยืดแขนสั้น สีลายเส้นขวางสีชมพู มีผ้าห่มลายเสือคลุมตั้งแต่หน้าอกจนถึงปลายเท้า ทราบชื่อต่อมา คือ นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 28 ปี อยู่บ้านดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณขมับขวา 1 นัด กระสุนฝังใน ตรวจสอบข้างตัวผู้ตาย พบอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตายเขียนด้วยปากกาในสมุดบันทึก จำนวน 4 หน้ากระดาษ เนื้อหาทำนองตัดพ้อที่ตัวเองทำผิดหลายครั้ง ทำให้พ่อแม่และคนที่รักผิดหวัง จึงตัดสินไม่ขออยู่ในโลกนี้อีก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนสามีผู้ตาย อายุ 33 ปี ทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายขนมหม้อแกงและบะหมี่ผัดที่ตลาดซิตี้ ภายในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ โดยเช่าบ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยอยู่รวมกับญาติพี่น้องรวม 4 คน ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำผู้ตายเข้านอนในห้องที่เกิดเหตุเพียงลำพัง โดยมีญาติพี่น้องและตนนอนอยู่ชั้นล่าง จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. คนในบ้านได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงประทัดแต่ไม่เอะใจเพราะข้างบ้านมีการจุดประทัดเป็นประจำ ประกอบกับช่วงนั้นมีฝนตกหนัก จนกระทั่งรุ่งเช้าเห็นว่าผู้ตายไม่ได้ลุกขึ้นมาทำขนมขายเหมือนทุกวัน จึงผลักประตูห้องเข้าไป พบว่าภรรยานอนจมกองเลือดแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายเกิดความเครียดเรื่องหนี้สินและมีการกู้เงินนอกระบบ ประกอบกับเงินที่ญาติฝากให้เป็นค่าเช่าบ้าน แต่กลับเอาเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น เมื่อถูกญาติทวงถาม ทำให้เกิดความเครียดจึงตัดสินใจยิงตัวตาย แต่ก่อนลงมือฆ่าตัวตายได้เขียนจดหมายลายตายเพื่อระบายความในใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบศพให้ญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป ขณะที่บรรยากาศในบ้านเป็นไปด้วยความเศร้าสลด ญาติผู้ตายร้องไห้ระงมกับการสูญเสียครั้งนี้