เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่ท่าเรือวัดสนามไชย ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการดำเนินการกู้เรือโดยสารล่มในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่า พร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิพุทธไศวรรย์ ร่วมกันเคลียร์พื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุ โดยการนำกองผักตบชวาที่ลอยมาติดบริเวณซากเรือและเศษไม้ต่างๆ ออกเพื่อรอการดำเนินการใช้เรือเครนขนาด 40 ตันจำนวน 2 ลำ ยกซากเรือขึ้นจากน้ำ
นายณัฐ จับใจ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ในการดำเนินการเบื้องต้นจะใช้เรือเครนดังกล่าวยกส่วนหัวและท้ายของซากเรือ จากการสำรวจของนักประดาน้ำพบว่า ที่ด้านกราบขวาของตัวเรือมีรอยแตกขนาดใหญ่ ยาว 7 เมตร กว้าง 1 เมตร ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีดังกล่าวในการกู้เรือ
“จากนั้นจะใช้แผ่นยางหรือสังกะสีอุดรูรั่วและจะดำเนินการสูบน้ำออกจากตัวเรือ แต่อย่างไรก็ตามต้องดูที่หน้างานร่วมด้วย เนื่องจากมีกระแสน้ำที่ไหลแรงซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นต้องคอยกำกับดูแลการทำงานอย่างใกล้ชิดและต้องปลอดภัยที่สุด”
อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวต่อว่า สำหรับซากเรือ เมื่อทำการกู้ขึ้นมาได้จะนำไปไว้ที่อู่ต่อเรือสีเจริญก่อนส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นของกลางเพื่อรอการตรวจสอบอีกครั้ง ในส่วนของคนขับเรือ เบื้องต้นกรมเจ้าท่าได้ดำเนินการแจ้งข้อหาไม่ต่อใบประกาศนียบัตรการขับเรือกับคนขับเรือดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 26 ราย สูญหายอีก 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะพบยอดผู้สูญหายทั้งหมด ก่อนสรุปยอดรวมอีกครั้งต่อไป
ล่าสุดเวลา 10.50 น. เจ้าหน้าที่พบศพเพิ่มเติมอีกหนึ่งรายทราบชื่อ ด.ช.อภิลักษณ์ บุญรักษ์ อายุ 3 ปี ค้นพบบริเวณหน้าคริสตจักรโยเซฟ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้ในขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 27 ราย สูญหาย 2 ราย
